THG แจงความคืบหน้าของรายการอันควรสงสัยตามที่ได้แจ้งไว้เดิม และการตรวจพบรายการอันควรสงสัยเพิ่มเติม กลุ่มบริษัทฯ ยังคงดําเนินงานอย่างต่อเนื่องตามปกติ และไม่ได้ ประสบภาวะขาดทุนจากการดําเนินงานตามปกติแต่
บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) THG เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากหนังสือที่อ้างถึง บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ขอรายงานต่อตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดังนี้
1. ความคืบหน้าของการดําเนินการเกี่ยวกับรายการอันควรสงสัย
ตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งไว้ก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการตรวจพบรายการอันควรสงสัย คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 105,000,000 บาท (ไม่รวมดอกเบี้ย) บริษัทฯ ขอเรียนให้ทราบว่า บริษัท ราชธานีพัฒนาการ (2014) จํากัด (“RTD”) ซึ่ง เป็นผู้รับประโยชน์จากรายการอันควรสงสัย ได้ทําหนังสือรับสภาพหนี้กับบริษัทฯ เป็นจํานวนเงินทั้งสิ้น 112,798,907 บาท (รวมดอกเบี้ย ซึ่งคํานวณจนถึงวันที่ทําหนังสือรับสภาพหนี้)บริษัทฯ จะใช้หนังสือรับสภาพหนี้เป็นหลักฐานในการเรียกร้องให้ RTD ชําระเงินให้แก่บริษัทฯ
โดยปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเตรียมฟ้องร้องดําเนินคดีกับ RTD ตามหนังสือรับสภาพหนี้ และกับอดีตผู้บริหารและพนักงานที่มี ส่วนเกี่ยวข้องสําคัญกับการทํารายการอันควรสงสัย ทั้งนี้ เพื่อปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้น 2. การตรวจพบรายการอันควรสงสัยเพิ่มเติม
บริษัทฯ ตระหนักถึงความสําคัญของการรายงานข้อมูลเกี่ยวกับรายการอันควรสงสัยแก่ตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทย และผู้ถือหุ้นโดยไม่ชักช้า เมื่อบริษัทฯ ตรวจพบรายการอันควรสงสัย เพื่อรักษาความโปร่งใสและยึดมั่นใน มาตรฐานที่ดีด้านธรรมาภิบาล
ดังนั้น บริษัทฯ ขอเรียนให้ทราบว่าจากการตรวจสอบเพิ่มเติม บริษัทฯ พบรายการอันควรสงสัยเพิ่มเติมของ บริษัทฯ และบริษัทย่อย ซึ่งรายการดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 2566
รายการอันควรสงสัยดังกล่าวได้ส่งผลให้เกิดความเสียหายทางการเงินแก่บริษัทฯ และบริษัทย่อย รวมมูลค่าทั้งสิ้น 63 ล้านบาท อย่างไรก็ดี มูลค่าความเสียหายดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางการเงินหรือความสามารถ ในการดําเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ แต่อย่างใด
สำหรับ กลุ่มครอบครัววนาสินถือหุ้นร้อยละ 40.80 ของหุ้นที่จําหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ RTD
ทั้งนี้ คณะกรรมการตรวจสอบได้ดําเนินการตรวจสอบธุรกรรมของบริษัทฯ และบริษัทย่อยสําคัญในช่วงปี 2566 - 2567 ที่ผ่านมาอย่างรอบคอบ และมีความเห็นว่านอกเหนือจากรายการอันควรสงสัยตามข้อ 1. และข้อ 2. แล้ว ไม่มี รายการอันควรสงสัยเพิ่มเติมใด ๆ ของบริษัทฯ และบริษัทย่อยที่ยังไม่ได้รับการเปิดเผย หรือพิจารณาเพื่อปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้น บริษัทฯ จะดําเนินการแจ้งเรื่องดังกล่าวต่อสํานักงาน คณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และดําเนินการทางกฎหมายต่ออดีตผู้บริหารและพนักงานที่มีส่วน เกี่ยวข้องสําคัญกับการกระทําที่เป็นเหตุให้เกิดรายการอันควรสงสัยดังกล่าว เพื่อปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของบริษัทฯและผู้ถือหุ้น
3. การตั้งสํารองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญไว้ในงบการเงิน
ความเสียหายทางการเงินที่เกิดขึ้นกับบริษัทฯ และบริษัทย่อยจากรายการอันควรสงสัยทั้งหมด (กล่าวคือรายการ ตามข้อ 1. และข้อ 2. ข้างต้น) นั้น บริษัทฯ ได้บันทึกบัญชีโดยตั้งสํารองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเต็มจํานวนในงบการเงินรวม สําหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2567 แล้ว เป็นจํานวนรวมทั้งสิ้นประมาณ 172 ล้านบาท ทั้งนี้ การตั้งสํารองดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้งบการเงินรวมของบริษัทฯ สะท้อนถึงฐานะทางการเงินและผลการดําเนินงานที่แท้จริง รวมถึงเพื่อให้สอดคล้องกับ หลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป
4. มาตรการป้องกันเพื่อมิให้เกิดรายการอันควรสงสัยเพิ่มเติม
ความเสียหายทางการเงินที่เกิดขึ้นกับบริษัทฯ และบริษัทย่อยจากรายการอันควรสงสัยทั้งหมดนั้น มีสาเหตุมา จากเหตุการณ์ในอดีตทั้งสิ้น ซึ่งบริษัทฯ ได้เพิ่มความเข้มงวดรัดกุมในการอนุมัติรายการ รวมถึงรายการที่เกี่ยวโยงกัน และ เพิ่มการตรวจสอบภายในให้ครอบคลุมมากขึ้น และให้มีการรายงานจากบริษัทย่อยอย่างสม่ําเสมอ เพื่อยกระดับ มาตรฐานการกํากับดูแลของบริษัทฯ และบริษัทย่อย และป้องกันไม่ให้เกิดรายการอันควรสงสัยเพิ่มเติมในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ดําเนินการลงโทษทางวินัยขั้นสูงสุดต่ออดีตผู้บริหารและพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องสําคัญ กับรายการดังกล่าว เพื่อแสดงถึงจุดยืนที่ชัดเจนของบริษัทฯ ในการไม่ยอมรับพฤติกรรมหรือการปฏิบัติใด ๆ ที่ฝ่าฝืน กฎหมาย และ/หรือระเบียบภายในที่บริษัทฯ กําหนดไว้ ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อบริษัทฯ และ/หรือบริษัทย่อย ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังจะดําเนินการทางกฎหมายกับอดีตผู้บริหารและพนักงานดังกล่าวด้วยเช่นกัน เพื่อให้มีการชดใช้ความเสียหาย ที่เกิดขึ้นแก่บริษัทฯ และบริษัทย่อยที่เกี่ยวข้อง อันเป็นส่วนหนึ่งของการปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้น
5. สภาพคล่องของบริษัทฯ
รายการอันควรสงสัยทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น แม้จะไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสภาพคล่องของกลุ่มบริษัทฯ แต่ อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้เสียต่อกลุ่มบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม ในแง่ของผลประกอบการจากการดําเนินงาน ตามปกติ (ไม่รวมการบันทึกบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการตั้งสํารองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ซึ่งเป็นการดําเนินการตามหลักความ ระมัดระวังและสอดคล้องกับหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป) กลุ่มบริษัทฯ ยังคงดําเนินงานอย่างต่อเนื่องตามปกติ และไม่ได้ ประสบภาวะขาดทุนจากการดําเนินงานตามปกติแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย และเพื่อแก้ไขข้อกังวลที่อาจจะเกิดขึ้นเกี่ยวกับสภาพ คล่องของกลุ่มบริษัทฯ คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้มีการศึกษาแนวทางการปรับโครงสร้างทางการเงินเพิ่มเติม เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินของบริษัทฯ ซึ่งแนวทางการปรับโครงสร้างทางการเงินที่กําลังพิจารณารวมถึงการ พิจารณาเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ เพื่อเสริมสร้างฐานะทางการเงินและรองรับการดําเนินงานในอนาคต และการพิจารณาจัดการหรือจําหน่ายสินทรัพย์บางประเภทที่ไม่ได้ใช้ในการประกอบธุรกิจหลัก เพื่อเพิ่มสภาพคล่องของกลุ่ม บริษัทฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะดําเนินการแจ้งให้ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสีย ทราบเกี่ยวกับความคืบหน้าของแนวทางการด่าเนินการดังกล่าวในโอกาสต่อไป
สุดท้ายนี้ บริษัทฯ ขอยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการดําเนินธุรกิจด้วยหลักธรรมาภิบาล และความโปร่งใส และ พร้อมที่จะดําเนินการอย่างเต็มที่เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว