“ประเสริฐ” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำเนียบรัฐบาลก่อนประชุมครม. นัดแรก เผยแบ่งงานรองนายกฯ ชัดวันนี้ เมิน ผลโพล ไม่เชื่อมั่นรัฐบาลแก้อาชญากรรมไซเบอร์ ย้ำ ตัวเลขลดลงอย่างมีนัย ยันดิจิทัลวอลเล็ตเฟส2ไม่ล้ม

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล พร้อมเผย วันนี้น่าจะมีความชัดเจนในการมอบหมายภารกิจงานรองนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมครม.

ทั้งนี้ การเป็นรองนายกรัฐมนตรีเป็นการทำงานในภาพรวม ซึ่งมีงาน 2 ส่วนภารกิจเป็นการแบ่งงานตามภารกิจและเขตตรวจราชการ

เมื่อถามต่อว่าการแบ่งเขตตรวจราชการจะมีผลต่อการทำงานด้านการเมืองหรือไม่ เช่นการประสานงานกับส.ส. นายประเสริฐ กล่าวว่า ส.ส. เป็นตัวแทนของประชาชน ต้องประสานงานกันหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน และภาคการเมือง อย่างส.ส.ถูกคัดเลือกมาจากประชาชน การฟังเขาก็เหมือนเป็นการฟังเสียงประชาชน ตนจึงคิดว่าต้องฟังด้วย

นายประเสริฐ เผยถึงผลสำรวจของดุสิตโพลถึงความคิดเห็นของประชาชนที่ออกมาระบุว่าไม่เชื่อมั่นว่านโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์จะสำเร็จได้นั้น ว่า การทำงานของกระทรวงในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา   จะเห็นตัวเลขความเสียหาย 1 วัน  100 กว่าล้านบาท แต่ปัจจุบันลดลงเหลือประมาณ 70 ล้านบาท    ซึ่งบ่งบอกถึงความสำเร็จของการทำงานอย่างหนึ่ง แต่ยอมรับว่า ต้องทำอย่างต่อเนื่องเพราะภารกิจยังไม่เสร็จสิ้น ประชาชนยังได้รับความเดือดร้อนอยู่ พร้อมกับระบุว่า ตัวเลขหลายอย่างลดลงอย่างมีนัย เช่น การปิดบัญชีม้า รวมไปถึงการใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยนายกรัฐมนตรีได้มีการกำชับให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนและถือเป็นนโยบายที่สำคัญ

ส่วนความคืบหน้าการจัดทำแอปพลิเคชั่นซัพพอร์ตโครงการดิจิทัลวอลเล็ต นายประเสริฐ กล่าวว่า ขอให้เป็นเรื่องของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล(องค์การมหาชน)(สพร.) หรือDigital Government Development Agency (DGA) ซึ่งเดิมมีความตั้งใจให้แอปพลิเคชั่นทางรัฐ เป็นแอปพลิเคชั่นที่รองรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตซึ่งหลังจากที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงอยากให้รอดูการทำงานของคณะทำงานก่อนว่ามีนโยบายอย่างไรต่อ ซึ่งตนคิดว่าก่อนสิ้นปีงบประมาณน่าจะมีข่าวดีให้ประชาชน

เมื่อถามต่อว่าประชาชนกลัวว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 2 จะถูกล้มเนื่องจากแอปพลิเคชั่นยังไม่เป็นรูปธรรม   นายประเสริฐ ยืนยันว่า ไม่ล้ม ซึ่งแอปพลิเคชั่นมีการดำเนินการอยู่ ซึ่งการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน มีความพร้อมอยู่แล้ว และเพิ่งมีการตั้งรัฐบาล หลายอย่างต้องอาศัยการแถลงนโยบายรัฐบาล ซึ่งวันนี้เรียบร้อยแล้วการขับเคลื่อนเรื่องนี้คงไม่ช้าแล้ว