POLY เดินหน้าสร้าง New S-curve มุ่งพัฒนานวัตกรรมสินค้ากลุ่มเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์หนุนการเติบโตโดดเด่น ตั้งเป้ารายได้ปี 2567 เติบโต 10%
กาญจนา เหลารัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โพลีเน็ต จำกัด (มหาชน) หรือ POLY กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจในครึ่งปีหลัง 2567 จะสามารถเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจาก จะมีการรับรู้รายได้จากสินค้ากลุ่มชิ้นส่วนอุตสาหกรรมยานต์ยนต์ที่มาจากสหรัฐอเมริการ ซึ่งจะมีการรับรู้เป็นรายได้จากค่าแม่พิมพ์ จำนวน 20-30 ล้านบาท และค่าผลิตชิ้นงาน จำนวน 4-5 ล้านบาท/เดือน และจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามจำนวนแม่พิมพ์
ด้านกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค บริษัทฯ ได้รับคำสั่งซื้อให้ผลิตสินค้าใหม่ที่มีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต ซึ่งได้รับไออเดอร์เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีคำสั่งผลิตสินค้าอื่นๆ ที่กำลังจะตามมาอีกในเร็วๆ นี้
“ปี68 เราได้แบรนด์ไบก้อนมา วอลลุ่มค่อนข้างสูง เขาให้ผลิต 40 ล้านชิ้นต่อเดือน ซึ่งตอนนี้มีการผลิตอยู่ที่อินโด ปีหน้าเราได้มาครึ่งนึง และไตรมาส4 นี้เราก็จะไปอินเดียเพื่อคุยยูนิริเวอร์ ส่วนยันฮี เราได้งานทำฝาปิดขวดน้ำ ปัจจุบันเขามีซัพพลายเออร์ 1 ราย และทางนั้นเขาไม่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มกำลังการผลิตเลย”
ด้าน กลุ่มเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical) เนื่องจากฐานลูกค้าส่วนใหญ่ของ POLY อยู่ในทวีปยุโรปและอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศที่มีต้นทุนค่ารักษาพยาบาลค่อนข้างสูง ทำให้การรักษา Homecare ได้รับความนิยมและยังคงตอบโจทย์กับผู้ใช้งาน
โดยในไตรมาส 4 นี้ บริษัทฯจะเริ่มผลิตสินค้าใหม่ ได้แก่อุปกรณ์สำหรับการผ่าตัดทรวงอก (Chest drain for surgery) ซึ่งคาดว่าจะสามารถผลิตได้ 500 Set/เดือน คาดว่าปี 2568 สินค้าชิ้นนี้จะสามารถสร้างรายได้ 30-40 ล้านบาท และในปี 2569 จะสามารถผลิตได้ 3,000 Set/ปี และสร้างรายได้ 70-80 ล้านบาท/ปี โดยอุปกรณ์สำหรับการผ่าตัดทรวงอก
“กลุ่มเมดิเคิลเราไปโฟกัสกลุ่มสินค้าที่มีความซับซ้อนเพราะมีคู่แข่งน้อย จึงทำให้สินค้ากลุ่มนี้มีมาร์จิ้นสูง และครึ่งปีหลัง 2567 เราประเมินว่ากลุ่มเมดิคอลจะผลักดันกำไรเติบโตอย่างโดดเด่น เนื่องจากรายได้มีการเติบโตและเป็นกลุ่มที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง และเป็นสินค้ากลุ่มที่ได้รับสิทธิประโยชน์จาก BOI ที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ส่วนกลุ่มที่มีการเติบโตด้านรายได้ที่โดดเด่นคาดว่าจะเป็นกลุ่มออโตโมทีฟ เพราะจะมีรายได้เข้ามาในช่วงไตรมาสที่ 3-4 จากค่าแม่พิมพ์และค่าผลิตชิ้นงาน จากการย้ายฐานการผลิตจากอเมริกามาที่ POLY” ศรีชัยกล่าว
จากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น ส่งผลให้บริษัทฯคาดว่ารายได้รวมปี 2567 จะเติบโต 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมมองว่าสินค้าที่เริ่มผลิตในครึ่งปีหลังนี้ จะสามารถรับรู้เป็นรายได้แบบเต็มที่ในปี 2568 ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้ปีหน้าเติบโต 20%