หลังจากที่เศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากคลายกังวลในเรื่องของดควิด-19 ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ก็ฟื้นตัวตาม ขณะที่เรื่องการลงทุนในตลาดหุ้นก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง ตามความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ในปี 2566 ได้มีบริษัทที่เตรียมเข้าตลาดหุ้นไทยจำนวนไม่น้อย ทั้งในตลาดหลักทรัพย์(SET) และตลาดเอ็ม เอ ไอ (mai) วันนี้ The Better จะพาไปดูว่าหุ้นที่เตรียมเข้าเทรดในตลาด SET จะมีอะไรบ้าง และแต่ละบริษัทประกอบธุรกิจอะไร
1.บริษัท ดีสโตน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน : DEE
ประเภทธุรกิจ
ประกอบธุรกิจ ผลิต จัดจำหน่าย และส่งออกยางล้อสำหรับยานพาหนะประเภทต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง ยางรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยางรถบรรทุกและรถโดยสาร ยางสำหรับรถและเครื่องจักรที่ใช้ในภาคการเกษตรและอุตสาหกรรม และยางรถจักรยานยนต์และจักรยาน
2.บริษัท เอคอมเมิร์ซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) : ACOM
ประเภทธุรกิจ
Holding company ลงทุนในบริษัทย่อยทั้งในและต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจหลักในการให้บริการสนับสนุนการประกอบธุรกิจด้าน E-Commerce ครบวงจรรายใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น เทคโนโลยีแพลตฟอร์ม ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ การให้คำปรึกษา การพัฒนาร้านค้าออนไลน์
3.บริษัทเอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) : SCGC
ประเภทธุรกิจ
ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจหลักที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการผลิตและจำหน่ายเคมีภัณฑ์ และธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
4.บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) : MGC
ประเภทธุรกิจ
ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจอย่างครบวงจรในอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งประกอบด้วย 1) กลุ่มธุรกิจจำหน่ายยานยนต์ 2) กลุ่มธุรกิจให้บริการหลังการขายและให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ 3) กลุ่มธุรกิจให้บริการเช่ารถยนต์และคนขับ และ 4) กลุ่มธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) บริการบริหารจัดการ (Shared Service) บริการทางการเงินสำหรับยานยนต์ นายหน้าประกันภัย และบริการทำความสะอาดและเคลือบสีรถยนต์
5.บริษัท พีพีพี กรีน คอมเพล็กซ์ จำกัด (มหาชน) : PPPGC
ประเภทธุรกิจ
ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากปาล์มน้ำมันประกอบด้วย น้ำมันไบโอดีเซล น้ำมันปาล์มโอเลอิน และผลิตภัณฑ์โอเลโอเคมีคัล เช่น กลีเซอรีนบริสุทธิ์ และผลิตภัณฑ์พลอยได้อื่นๆ
6.บริษัท ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) : SINO
ประเภทธุรกิจ
ให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Freight Forwarder) ทั้งทางทะเล (Sea Freight) ทางอากาศ (Air Freight) และการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (Multimodal Transport Operation) เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ที่มีความต้องการบริการขนส่งสินค้าตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางทั่วโลก (End – to – End Global Logistics) รวมถึงการให้บริการให้เช่าคลังสินค้า การให้บริการขนส่งทางบก การให้บริการด้านพิธีการศุลกากร และบริการอื่นๆ เพื่อสนับสนุนการให้บริการโลจิสติกส์อย่างครบวงจรและมีประสิทธิภาพ
7.บริษัท พี.เอส.พี.สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) : PSP
ประเภทธุรกิจ
ประกอบธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์หล่อลื่นแบบครบวงจร โดยเริ่มตั้งแต่กระบวนการจัดหาวัตถุดิบ การออกแบบผลิตภัณฑ์ การผลิตผลิตภัณฑ์ การบรรจุผลิตภัณฑ์ การจัดเก็บและศูนย์กระจายสินค้า การให้บริการจัดการด้านโลจิสติกส์ และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
8.บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) : GABLE
ประเภทธุรกิจ
1. ให้บริการโซลูชั่นระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัลอย่างครบวงจร (Information Digital Solution) เป็นส่วนใหญ่2. ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายและสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value-added Distribution) ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของผลิตภัณฑ์ Oracle และ Veritas3. ธุรกิจบริการซอฟต์แวร์แพลตฟอร์ม (Software Platform)
9.บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) : KCG
ประเภทธุรกิจ
ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภค ซึ่งเน้นผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารและขนมตะวันตก (Western foods) โดยมี 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม (Dairy Products) กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการประกอบอาหารและเบเกอรี่ (Food and Bakery Ingredients) และผลิตภัณฑ์อื่นๆ และกลุ่มผลิตภัณฑ์บิสกิต (Biscuits)
10.บริษัท แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) : PHG
ประเภทธุรกิจ
รพ.เอกชน ซึ่งให้บริการทางการแพทย์จำนวน 3 แห่ง ในจังหวัดปทุมธานี ได้แก่ 1) โรงพยาบาลแพทย์รังสิต 2) โรงพยาบาลแพทย์รังสิต2 และ 3) โรงพยาบาลเฉพาะทางแม่และเด็กแพทย์รังสิต ซึ่งเรียกรวมว่า “กลุ่มโรงพยาบาลแพทย์รังสิต” ปัจจุบันมีจำนวนเตียงจดทะเบียนรวมทั้งหมด 270 เตียง