GUNKUL ตั้งเป้ารายได้ปี 2567 โต 15% แตะ 9,000 ล้านบาท เป็นไปตามการเติบโตของธุรกิจหลัก วางงบลงทุน 3,000-4,000 รองรับขยายธุรกิจ พร้อมเตรียมเข้าร่วมประมูลพลังงานทดแทนรอบใหม่

สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL กล่าวถึงแผนธุรกิจปี 2567 โดยบริษัทฯตั้งเป้ารายได้แตะที่ระดับ 9,000 ล้านบาท หรือเติบโต 15% จากปีก่อนที่ทำได้ 7,737.13 ล้านบาท โดยการเติบโตจะมาจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า (เทรดดิ้ง) ที่คาดว่าจะสามารถทำได้ราว 2,000 ล้านบาท หรือเติบโต 20% จากปีก่อน โดยในปีนี้บริษัทฯจะนำสินค้าที่ไม่ได้จำหน่ายในปีที่ผ่านมาออกมาจำหน่ายอีกครั้ง หลังจากช่วงที่ผ่านมาติดปัญหาเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ทำให้โครงการต่างๆจากทางภาครัฐเกิดความล่าช้า รวมถึงผู้ว่าการ กฟผ.คนใหม่ก็พึ่งมีการแต่งตั้งแล้วเสร็จเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อว่าเป็นสัญญานที่ดีของธุรกิจเทรดดิ้งหลังจากนี้ 

ด้านธุรกิจก่อสร้างบริษัทฯตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 4,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) จำนวน 4,800 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทวางเป้าหมายที่จะเพิ่มงานในมืออีก มูลค่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ backlog อยู่ที่ 6,800 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้เข้ามาในปีนี้ จำนวน 2,000 ล้านบาท รวมถึงบริษัทฯยังอยู่ระหว่างรอเข้าประมูลงานสายส่งไฟฟ้าแรงสูง 500 เควี ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเพิ่มเข้ามาอีก หลังจากก่อนหน้านี้ได้รับงานก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าขนาด 230 เควี ไปแล้ว

ในส่วนของธุรกิจผลิตไฟฟ้าบริษัทฯ เตรียมความพร้อมเข้าประมูลซื้อขายไฟฟ้า โดยเฉพาะพลังงานทดแทนกับหน่วยงานภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ก็คาดว่าจะเห็นรายละเอียดของแผน PDP ใหม่ ได้ในปีนี้ อย่างไรก็ตามในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้พัฒนาโครงการพลังงานทดแทนในประเทศ และได้รับคัดเลือกตามประกาศคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff(FiT) ปี 2565 - 2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ.2565 จำนวน 17 โครงการ รวม 832.4 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เข้าลงนามสัญญาซื้อขายไฟแล้ว จำนวน 14 โครงการ รวม 621.4 เมกะวัตต์ โดยเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมด ส่วนที่เหลือจะมีการเซ็น PPA ในลำดับถัดไป 
          
สำหรับงบลงทุนปีนี้วางไว้ที่ 3,000-4,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสำหรับธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า (เทรดดิ้ง) ราว 400-500 ล้านบาท, ธุรกิจก่อสร้าง ราว 1,200 ล้านบาท ส่วนที่เหลือรองรับธุรกิจผลิตไฟฟ้า

สมบูรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯมีแผนออกหุ้นกู้จำนวน 1,800 ล้านบาท เพื่อทดแทนหุ้นกู้ชุดเดิมที่จะครบกำหนดในเดือนกรกฎาคมนี้ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาบริษัทฯได้มีการทดลองออกหุ้นกู้ไปแล้วจำนวน 800 ล้านบาท ซึ่งได้กระแสตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี