'บ้านปู พาวเวอร์' ขยายพอร์ตโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติต่อเนื่อง จ่อปิดดีลที่สหรัฐฯ เพิ่มอีก 1 ราย ภายในครึ่งปีแรก พร้อมอัดงบลงทุน 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รองรับการขยายธุรกิจ
กิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP กล่าวว่า บริษัทฯมั่นใจรายได้ปี 2567 จะเติบโตไม่ต่ำกว่าปี 2566 ที่ทำได้ 30,443 ล้านบาท โดยจะมาจากการที่บริษัทฯเดินหน้าขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าด้วยการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ต่อเนื่อง ซึ่งมีทั้งโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ และโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน โดยวางงบลงทุนไว้ที่ 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวเลขใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
โดยบริษัทฯนั้นมีความสนใจเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ เพิ่มเติม และจะต้องมีขนาดไม่น้อยกว่าโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple I และ Temple II ในรัฐเท็กซัส ซึ่งการลงทุนดังกล่าวบริษัทฯจะเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วน 25-30% หรือคิดเป็นกำลังการผลิตตามสัดส่วนการลงทุนประมาณ 100-200 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะสามารถปิดดีลได้ภายในครึ่งปีแรกนี้
ขณะเดียวกัน บริษัทฯยังมองโอกาสลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใน 8 ประเทศแถบเอเชียแปซิฟิก ที่ได้เคยเข้าลงทุนไปแล้ว อย่างจีน และอินโดนีเซีย โดยเฉพาะอินโดนีเซียที่มีการเติบโตในเรื่องของโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนอย่างแข็งแกร่งจากการผลักดันของรัฐบาล รวมถึงยังมองเห็นโอกาสในการเข้าลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจพลังงานเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น การส่งพลังงาน หรือโครงสร้างพื้นฐานของธุรกิจพลังงาน คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้
"ตลาดไฟฟ้าเสรี ยังมีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องที่ามารถทำให้เราเติบโตได้ ไม่ใช่เพียงจำนวนเมกะวัตต์ที่เราหามาเติมพอร์ตอย่างเดียวเท่านั้น ดังนั้นเราจึงมองหาโอกาสในการสร้างรายได้จากตรงนี้ด้วยเช่นกัน รวมถึงการทำแบตเตอรี่ฟาร์มในสหรัฐฯ เพื่อจะเป็นการต่อยอดธุรกิจพลังงานของเราในอนาคต" กิรณ กล่าว
สำหรับในปี 2567 นี้ บริษัทฯจะดำเนินธุรกิจผ่าน 3 จุดแข็ง ได้แก่
1) ดำเนินงานด้วยคุณภาพระดับสากลจากความเชี่ยวชาญของทีมงานของ BPP เพื่อสร้างความต่อเนื่องทางธุรกิจและปรับตัวกับความท้าทายต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
2) ผสานพลังร่วมในระบบนิเวศทางธุรกิจที่แข็งแกร่งใน 8 ประเทศยุทธศาสตร์ของ BPP และผนึกกำลังร่วมภายในกลุ่มบ้านปูผ่านการแบ่งปันองค์ความรู้ความเชี่ยวชาญด้านพลังงานร่วมกัน เพื่อเพิ่มโอกาสและมูลค่าทางธุรกิจ
3) สร้างคุณค่าที่ยั่งยืนแก่สังคมทุกภาคส่วน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ควบคู่ไปกับการเป็นองค์กรพลเมืองที่ดี ผ่านการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับหลักความยั่งยืน