GGC ประกาศยุทธศาสตร์ปี 67 หนุน 3 Portfolio ขยายธุรกิจ วางเป้ายอดขายรวมใกล้เคียงปีก่อนที่ 4.5 แสนตัน

GGC ประกาศยุทธศาสตร์ปี 67 หนุน 3 Portfolio ขยายธุรกิจ วางเป้ายอดขายรวมใกล้เคียงปีก่อนที่ 4.5 แสนตัน
GGC เปิดแผนธุรกิจปี 2567 เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจ มุ่งขยายโอกาสธุรกิจในการสร้าง High Value Product พร้อมวางเป้ายอดขายรวมใกล้เคียงปีก่อนที่ 4.5 แสนตัน

กฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวมปีนี้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 4.5 แสนตัน มาจากปริมาณการขายกลุ่มธุรกิจเมทิลเอสเทอร์(B100) กว่า 3 แสนตัน กลุ่มธุรกิจแฟตตี้แอลกอฮอล์(FA) ประมาณ 1 แสนตัน และกลีเซอรีน ประมาณ 4 หมื่นตัน ขณะที่คาดว่า Adjusted EBITDA ปีนี้ จะใกล้เคียงกับปี 2566 ซึ่งอยู่ที่ 812 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 3,000 ล้านบาทในปี 2569

ขณะที่แนวโน้มความต้องการผลิตภัณฑ์ในปีนี้ คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเฉพาะเมทิลเอสเทอร์ หรือ B100 ที่คาดว่าจะเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน ตามนโยบายการสนับสนุน B7 ของภาครัฐ อีกทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ช่วยให้ความต้องการใช้ B100 เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามในส่วนของซัพพลายปีนี้ ก็ต้องยอมรับว่าปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งซัพพลายมากกว่าดีมานด์ ประมาณ 50-60% ทำให้การแข่งขันยังสูง ดังนั้นบริษัทพยายามทำสัญญาระยะยาวให้มากขึ้น

นอกจากนี้บริษัทเสนอภาครัฐ เพื่อพิจารณาการเพิ่มสัดส่วนการผสม B100 เพิ่มขึ้น เป็น B10 รวมทั้งในภาครถบรรทุกขนส่ง อาจเพิ่มเป็น B20-B30 ได้ในอนาคต

ส่วนแนวโน้มความต้องการแฟตตี้แอลกอฮอล์ คาดว่าดีมานด์ปีนี้ไม่ลดลงจากปีก่อน ขณะเดียวกันก็มีตลาดใหม่เติบขึ้น จึงมองว่ายอดขายแฟตตี้แอลกอฮอล์ในปีนี้จะไม่น้อยกว่าในปี 2566 ที่มีปริมาณการขายจำนวน 97,390 ตัน ส่วนด้านซัพพลายบางช่วงอาจขาดบ้าง และราคาขยับขึ้นบ้างในช่วงไฮซีซั่น

นอกจากนี้บริษัทได้ขยายธุรกิจสู่ตลาดในกลุ่ม Food Ingredients & Pharmaceutical ในฐานะผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เป็น Green Product เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการมีสุขภาพดีภายใต้แบรนด์ “Nutralist” ผ่านการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารเสริม 2 ตัว คือ Astaxanthin และ Probiotic ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งก้าวที่สำคัญของ GGC ที่ต่อยอดธุรกิจเดิมสู่การขยายพอร์ตการลงทุนในธุรกิจเสริมอาหารเพื่อสุขภาพ เนื่องจากบริษัทเล็งเห็นว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีความต้องการสูงและตอบสนองต่อ Lifestyle ของผู้บริโภคที่รักสุขภาพในปัจจุบัน โดยบริษัทคาดว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้ธุรกิจของ GGC เติบโตได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืนในอนาคต พร้อมตั้งเป้าการเติบโตของธุรกิจกลุ่ม Food Ingredients & Pharmaceutical ไว้ที่ 10% ของ EBITDA หรือคิดเป็นมูลค่า 300 ล้านบาท ภายในปี 2569 เทียบกับปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 50 ล้านบาท

กฤษฎา กล่าวอีกว่า บริษัทยังคงเดินหน้าสร้างโอกาสการเติบโตสู่ความสำเร็จอย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ The New Chapter of GGC to be the Sustainable Growth Business : Execution for Success ผ่านการมุ่งมั่นดำเนินการตาม 3 กลยุทธ์หลัก คือ เข้มแข็ง เติบโต และยั่งยืน 

สำหรับด้านความเข้มแข็ง (Enhance Competitiveness) บริษัทจะสร้างความเป็นเลิศในด้านการผลิตมุ่งเน้นการลดต้นทุนในองค์กร (Cost Optimization)เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการเงินและสร้างมูลค่าสูงสุดจากทรัพยากรที่ใช้ในกิจการ การปรับปรุงการใช้วัตถุดิบ(Feedstock Optimization) โดยเน้นการใช้วัตถุดิบทางเลือกอย่างเหมาะสมการเพิ่มยอดขายของสินค้าที่ผลิตจากวัตถุดิบ RSPO (FA) และการจัดการด้าน Operation Excellence โดยบริหารจัดการการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจหลัก (Core Business) อาทิ เมทิลเอสเทอร์ (ME) แฟตตี้แอลกอฮอล์ (FA) และเอทานอล (EtOH)

ด้านการเติบโต (Growth Portfolio) ด้วยการปรับ Portfolio ให้ชัดเจนสำหรับการลงทุนใน 3 กลุ่มธุรกิจ Bioenergy, Biochemicals และ Food Ingredients & Pharmaceutical เพื่อความพร้อมในการปรับตัวให้สอดรับกับความท้าทายและสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง ขับเคลื่อนด้วยการต่อยอดธุรกิจเดิมสู่การเพิ่มโอกาสในการเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้น (High Value Product) 

ส่วนด้านความยั่งยืน (Sustainability Development) บริษัทมุ่งมั่นการดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG และได้รับการยอมรับในระดับสากล รวมทั้งแสวงหาโอกาสทางธุรกิจจาก Decarbonization โดย GGC ยังคงเดินหน้าเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ของสหประชาชาติ (United Nations : UN) ครอบคลุมทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านการเติบโตของธุรกิจรวมถึงการสร้างคุณค่ายกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจให้ได้รับการยอมรับทั้งในระดับประเทศ และระดับสากล โดยกำหนดยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ตามแนวคิดการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน“ESG” ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) ด้านสังคม (Social) และด้านการกำกับดูแล (Governance)


 

TAGS: #GGC