โบรกฯ มอง TU ยุติลงทุนใน Red Lobster เป็นบวกผถห. เคาะ ‘ซื้อ’ ให้เป้า 18 บาท

โบรกฯ มอง TU ยุติลงทุนใน  Red Lobster เป็นบวกผถห. เคาะ ‘ซื้อ’ ให้เป้า 18 บาท
ฟินันเซีย มอง TU ยุติลงทุนใน Red Lobster เป็นบวกต่อผู้ถ่อหุ้น เพราะจะหยุดรับรู้ผลขาดทุนของ RL หมดภาระทางการเงินต่อ RL ตั้งแต่ 1Q24 เป็นต้นไป เคาะ ‘ซื้อ’ ให้เป้า 18 บาท

หลังจากที่ธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้ตัดสินใจประกาศแผนถอนการลงทุนจากการลงทุนส่วนน้อยใน Red Lobster Master Holdings, L.P. (RLMH) โดย TU เข้าเป็นผู้ถือหุ้นส่วนน้อย และพันธมิตรทางธุรกิจกับ Red Lobster ตั้งแต่ปี 2559 

และในช่วงหลายปีที่ผ่านมาธุรกิจ Red Lobster ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผลกระทบด้านลบในอุตสากรรม อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบและค่าแรงที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบในด้านลบต่อบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นมาอย่างต่อเนื่อง 

ที่ผ่านมาในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 กลุ่มบริษัทบันทึกส่วนแบ่งขาดทุน 700 ล้านบาท (19 ล้านเหรียญสหรัฐ) ใ6 จาก Red Lobster

ทั้งนี้ TU และ Red Lobster ได้ทบทวนแผนธุรกิจของ Red Lobster เพื่อหาแนวทางปรับปรุงการดำเนินงานทั้งในด้านการปฏิบัติการ และด้านการเงินมาอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่หลังการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน คณะกรรมการบริษัทมีความเห็นว่า ธุรกิจ Red Lobster ซึ่งมีความต้องการใช้เงินสูง ไม่สอดคล้องกับแผนการจัดสรรเงินลงทุนของ TU และเห็นควรถอนการลงทุนจากการลงทุนส่วนน้อยใน Red Lobster และในระหว่างที่บริษัทฯ ศึกษาช่องทางที่เป็นไปได้ในการถอนการลงทุนนี้ บริษัทฯจะบันทึกรายการด้อยค่าที่ไม่ใช่เงินสดครั้งเดียว จำนวน 18,500 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 4 ปี 2566

คณะกรรมการบริษัทฯ มีความเห็นว่า บริษัทฯ มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และการบันทึกรายการด้อยค่าที่ไม่ใช้เงินสดครั้งเดียวนี้ จะไม่มีผลกระทบในทางลบอย่างมีนัยสาระสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ ทรัพย์สิน หรือสภาวะทางการเงินของบริษัทฯ

อย่างไรก็ตามรายการดังกล่าวส่งผลกระทบต่ออัตราส่วนความสามารถในการชำระดอกเบี้ย และข้อจำกัดการจ่ายเงินปันผล ซึ่งเป็นข้อกำหนดภายใต้หุ้นกู้บางชุดที่ออกโดยบริษัทก่อนหน้านี้ โดยบริษัทฯ จะดำเนินการเพื่อผ่อนผันเงื่อนไขดังกล่าวกับผู้ถือหุ้นก่อนการประกาศผลประกอบการในเดือน ก.พ. นี้

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส (จำกัด) มหาชน มองว่า การตัดสินใจยุติการลงทุนใน Red Lobster (RL) ยอมตั้งด้อยค่าทางบัญชี 1.8 หมื่นลบ. แม้จะทำให้งบปี 2023 ขาดทุน แต่ดีกับผู้ถือหุ้นมากกว่าเพราะจะหยุดรับรู้ผลขาดทุนของ RL หมดภาระทางการเงินต่อ RL ตั้งแต่ 1Q24 เป็นต้นไป เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน เป็นการยากที่ RL จะฟื้นกลับมาได้เร็ว

แม้ว่าการขาดทุนจะกระทบอัตราส่วนทางการเงินที่เป็นเงื่อนไขของหุ้นกู้ แต่เชื่อว่าบริษัทจะขอผ่อนผันและจ่ายปันผลได้ปกติ ในอนาคตหากขาย RL ได้ TU จะกลับรายการด้อยค่าเป็นกำไรได้ 

และส่วน Operation ฟื้นทั้ง TU และ ITC เราจะปรับเพิ่มกำไรและเป้าปี 2024 เป็น 20 บาทหลังหยุดรับรู้ขาดทุนจากRL

โดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 18 บาท 

ด้านแนวรับ 14.40 บาท แนวต้าน 15 บาท 

TAGS: #TU #RedLobster