หลัง LINEMAN Wongnai และ LINE ปะเทศไทย เข้าซื้อหุ้นธุรกิจ Rabbit LINE Pay (RLP) ไปเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน พร้อมปรับโครงสร้างใหม่ธุรกิจ เพื่อเติมเต็มระบบนิเวศธุรกิจกลุ่มไลน์ รองรับตลาดอีเปย์เมนต์ ไทยโต
ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai ผู้ให้บริการฟู้ด แอปพลิเคชัน กล่าวว่าภายหลังการเข้าถือหุ้นธุรกิจ RPL ทั้งหมด ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่าน ส่งผลให้ LINE MAN Wongnai เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ RLP โดยผู้ถือหุ้นรองลงมา คือ Line ประเทศไทย จากผู้ถือหุ้นเดิม คือ บริษัท แรบบิทเพย์ ซิสเทม จำกัด และ บริษัท แอดวานซ์ เอ็มเปย์ จำกัด ในสัดส่วนรายละ 33.33%
พร้อมกับ ปรับโครงสร้างผู้บริหารใหม่ ดังนี้ ยอด ชินสุภัคกุล ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ ชอง อิน ยัง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ LINE MAN Wongnai เข้ามาควบตำแหน่งเดียวกันใน RLP ด้วย
“การซื้อกิจการในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมบริการของ RLP เข้ากับระบบนิเวศของ LINE มากขึ้น ได้แก่ LINE MAN, LINE SHOPPING, แอป LINE รวมถึงเครือข่ายร้านค้าบนแพลตฟอร์ม Wongnai สามารถทำธุรกรรมได้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งอีโคซิสเตมของกลุ่มไลน์ก็มีความเป็นอีคอมเมิร์ซสูงอยู่แล้ว เป็นจังหวะที่ดีในการดึง RLP เข้ามาช่วยเสริมศักยภาพ” ยอด กล่าว
นอกจากนี้ ธุรกิจการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-payment) ในประเทศไทยมีการขยายตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากการทำธุรกรรมการเงินแบบออนไลน์ได้แพร่หลายในไทย อาทิ บริการพร้อมเพย์ การแสกนคิวอาร์โค้ด การใช้ อี-วอลเล็ต รวมไปถึงแอปฯเป๋าตัง ซึ่งเป็นบริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ภายใต้หน่วยงานรัฐ (Government Wallet) ของไทย ซึ่งริบบิทไลน์เพย์ ถือเป็นธุรกิจด้าน e-payment ในไทย ที่เข้ามารองรับพฤติกรรมผู้บริโภค ลักษณะดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดย RLP เตรียมแผนทำงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ที่สนใจด้านอี-เปย์เมนต์ เพื่อสร้างการเติบโต ในฐานะที่แรบบิทไลน์เพย์ เป็นผู้ขับเคลื่อนทางกลยุทธ์ (Strategic Move)
จากการใช้จุดแข็ง การเชื่อมต่อผู้ใช้งานกว่า 10 ล้านคนบนแพลตฟอร์ม LINE MAN และ Wongnai รวมถึงร้านค้าอีกกว่า 5 แสนร้านและไรเดอร์อีกมากกว่า 1 แสนคน เพื่อสร้างประสบการณ์ธุรกรรมทางการเงินระหว่างกันได้อย่างราบรื่น
“RLP จะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่ช่วย LINE MAN Wongnai อยู่ในสถานะที่โดดเด่นในการผลักดันเศรษฐกิจไทยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล” ยอด กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตลาดอี-เปยเมนต์ ในไทย ยังมีการแข่งขันสูง ทั้งจากกลุ่มธนาคารพาณิชย์ วอลเล็ต และจากผู้เล่นรายใหม่ ๆ ซึ่งบริษัทฯ ก็เป็นหนึ่งในผู้เข้ามาร่วมลงแข่งขันในตลาดนี้ และคาดหวังเป็นผู้เล่นหลักในไทยให้ได้
ยอด กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับนโยบายดิจิทัล วอลเลต ภายใต้นโยบายภาครัฐชุดใหม่นั้น ทางกลุ่มบริษัทยังต้องรอดูความชัดเจนอีกครั้ง ซึ่งพร้อมให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องในโยบายดังกล่าว ทั้งด้านการชำระเงิน ไปจนถึงการเชื่อมโยงกับร้านค้า บริการฟู้ดเดลิเวอรีในระยะ 4-6 กม. เป็นต้น จากก่อนหน้าบริษัทได้ให้คามร่วมมือในโครงการคนละครึ่งในรัฐบาลชุดที่ผ่านมา และได้การตอบรับดี
