โอกาสของ"พิธา"หลังโหวตชิงเก้าอี้นายกฯรอบสอง 19 ก.ค.นี้ น่าจะเปิดฉากลง ถึงนาทีนี้สูตรตั้งรัฐบาลเหลือไม่มากนัก ไม่น่าจะเกิน 4 สูตร ตามมีรายละเอียดดังนี้

การโหวตนายกรัฐมนตรีวันที่ 19 ก.ค.นี้ น่าจะเป็นโอกาสสุดท้ายของ"พิธา ลิ้มเจริญรัตน์"หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในการชิงเก้าอี้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วม 8 พรรค มีมติ ให้โอกาส "พิธา"อีกครั้งหนึ่ง โดย "พิธา"ให้คำมั่นว่าหากได้รับเสียงสนับสนุนไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ คือเพิ่มขึ้นไม่เกิน 10% จากคะแนน ก็จะถอยให้พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคอันดับสองจัดตั้งรัฐบาล

อย่างไรก็ตามไม่ใช่เรื่องง่าย ที่ชื่อของ "พิธา"จะเข้า โหวตรอบ 2 ได้ เพราะส.ว.ตั้งแง่ที่จะโหวตคว่ำ "พิธา"ก่อน ด้วยการเสนอญัตติ  ตีความเกี่ยวกับการเสนอชื่อนายพิธา เป็นนายกฯ ครั้งที่ 2 ว่าถือเป็นการยื่นญัตติซ้ำในสมัยประชุมเดียวกัน ตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 หรือไม่ และ หากวิป 3 ฝ่ายตกลงกันไม่ได้ก่อนประชุม โอกาส "พิธา"จะแพ้เหมือนการโหวตนายกฯ ซึ่งเป็นไปได้

อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้สูตรในการจัดตั้งรัฐบาลเหลือเพียง 4 สูตร เท่านั้น

สูตรแรก 19 ก.ค.นี้ โหวตรอบที่ 2 "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์"ยังเป็นแนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนเดียว พรรคฝ่าย188 เสียงคงไม่ส่งคนมาแข่งนายกฯ เพราะได้ประกาศไม่สนับสนุนเสียงข้างน้อย โดยสูตรดังกล่าวประกอบด้วย 8 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม  312 เสียง ก้าวไกล(กก.) 151 เพื่อไทย(พท.) 141 ประชาชาติ(ปช.) 9 ไทยสร้างไทย(ทสท.) 6 เพื่อไทรวมพลัง(พทร.) 2 เป็นธรรม(ปธ.) 1  เสรีรวมไทย(สร.) 1 พลังสังคมใหม่(พ.ส.ม.) 1 โดย พิธา ต้องการเสียง ส.ว. 64 เสียง คงยาก เพราะเดิมโหวตครั้งแรก เมื่อ13 ก.ค.ที่ผ่านมาได้ 13 เสียง ครั้งนี้ขอเพิ่ม 10% เป็นอย่างน้อย หรือ 344 เสียง  เพื่อขอโหวตต่อรอบ 3 แต่ คงยากยิ่ง

ขณะที่สูตร 2  เพื่อไทยจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยจะเป็นการโหวตรอบ3 (คาด 26 ก.ค.)ซึ่งจะมีสองสูตรด้วยกัน คือ สูตรมีพรรคก้าวไกลกับไม่มีพรรคก้าวไกล เข้าร่วมรัฐบาล โดยสูตรที่ มีพรรคก้าวไกลร่วมด้วยทาง เพื่อไทยจะส่ง "เศรษฐา ทวีสิน"มาชิงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่สะเด็ดน้ำเพราะแรงหนุน "อุ๊งอิ๊งค์"แพทองธาร ชินวัตร จากคนภายในพรรคเพื่อไทย ยังมีอยู่  แต่นาทีนี้ "เศรษฐา"ยังมาแรงกว่า

ทั้งนี้สูตรดังกล่าวมี 15 พรรค 353 เสียง โดยประกอบด้วย 8 พรรคเดิม 312 ประชาธิปัตย์ 25 ชาติไทยพัฒนา 10  ชาติพัฒนากล้า 2  ประชาธิปไตยใหม่ 1 ใหม่ 1 ท้องที่ไทย 1  ครูไทยเพื่อประชาชน 1 โดยสูตรนี้ ต้องการเพียงส.ว.23 เสียงเท่านั้น

อย่างไรก็ตามสูตรนี้ เงื่อนไขอยู่ที่ "ก้าวไกล"  จะยอมรับพรรคร่วมที่เข้ามาใหม่ได้หรือไม่ ถ้ารับได้ ก็เป็นไปตามนี้ แต่ถ้า "ก้าวไกล"รับไม่ได้ ถอนตัวไปเป็นฝ่ายค้าน สูตรนี้ก็จะมีการปรับดังนี้

สูตร 3 ไม่มีก้าวไกล 313 เสียง ประกอบด้วย 7 พรรคเดิม 161 ภูมิใจไทย 71 เสียง พลังประชารัฐ 40 เสียง ประชาธิปัตย์ 25 เสียง ชาติไทยพัฒนา 10 เสียง ชาติพัฒนากล้า 2 เสียง ประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียง  ใหม่ 1 เสียง ท้องที่ไทย 1 เสียงครูไทยเพื่อประชาชน 1 เสียง 

โดยสูตรนี้ต้อง หาสว.63 เสียง "เศรษฐา"จึงจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ในขณะเดียวกัน"ลุงป้อม"ต้องสนับสนุนนายกฯเพื่อไทย เพื่อต้องการดึงเสียงส.ว.มาช่วยจึงจะประสบความสำเร็จ

อย่างไรก็ตามสูตรนี้หาก "ลุงป้อม" ไม่ยอม อยากเป็นนายกฯเอง ก็จะมีสูตรดังนี้

สูตร 4 รอบ 4 (3 ส.ค.ถ้ามี) สูตรลุงป้อมนายกฯ 329 เสียง เพื่อไทย 141 ภูมิใจไทย 71  ประชารัฐ 40 รวมไทยสร้างชาติ 36  ประชาธิปัตย์ 25 ชาติไทยพัฒนา 10 ชาติพัฒนากล้า 2 ประชาธิปไตยใหม่ 1 ใหม่ 1 ท้องที่ไทย 1 ครูไทยเพื่อประชาชน 1 โดยสูตรนี้ ต้องการส.ว.เพิ่ม 47 เสียง

ว่ากันตามจริงสูตรนี้เกิดขึ้นได้ยาก เพราะเพื่อไทยต้องยอมให้ลุงป้อมเป็นนายกฯเทานั้นถึงจะเกิดขึ้นได้ แต่จนถึงในขณะนี้มีแต่ข่าวปล่อยเท่านั้น

อย่างไรก็ตามการเมือง พลิกผันได้ตลอดเวลา ตราบใดยังมีช่อง ยังมีเวลา และยังไม่มีข้อยุติ อะไรก็เกิดขึ้นได้