ม.หอการค้าฯเชื่อม๊อบจะไม่รุนแรง ตั้งรัฐบาลเร็วเป็นทางออกที่ดีที่สุด มั่นใจพื้นฐานประเทศยังหนุนให้จีดีพีโต 3.5%
รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อโหวตนายกรัฐมนตรีในวันนี้(13ก.ค.)ว่า สิ่งสำคัญตอนนี้คือหากตั้งรัฐบาลให้เร็วน่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด ซึ่งการเลือกนายกฯมองได้หลายมุม หากโหวตเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ทุกอย่างก็จบเร็ว แต่ถ้าผลโหวตไม่ผ่านจนมีการประท้วงเกิดขึ้นและเลือกนายกฯไม่ได้ กระบวนการต่างๆก็ต้องเลื่อนออกไป
ทั้งนี้กรณีการชุมนุมประท้วงที่จะเกิดขึ้นยอมรับว่าตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมิน หากมีการประท้วงกันในกรอบ ไม่มีการปะทะ จนถึงขั้นเสียชีวิต หรือเผาทำลายทรัพย์สิน เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยยังมีพื้นฐานอัตราการเติบโตได้ 3-3.5 %
“การชุมนุมวันนี้ต้องรอดูการประชุมรัฐสภามีบทบาทสำคัญ จะมีการโหวตหรือไม่โหวต ถ้าไม่โหวต เพื่อรอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคดีก่อนก็ต้องดูว่าใช้เวลาในการวินิจฉัยเท่าไหร่ หรือถ้าเปิดให้มีการโหวตก็ต้องดูว่าไม่ผ่านกี่รอบถ้าประท้วงในกรอบไม่กระทบเศรษฐกิจยังโตได้ 3.5% “
อย่างไรก็ตามขณะนี้ภาคธุรกิจและประชาชนมีความเป็นห่วงสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความไม่แน่นอนสูง เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น เสียโอกาสทางเศรษฐกิจ หากสามารถตั้งรัฐบาลได้ในช่วงเดือนส.ค.-ก.ย. จะทำให้เห็นภาพชัดเจนและส่งผลต่อการขับเคลื่อนทางธุรกิจและการลงทุน
รศ.ดร.ธนวรรธน์ กล่าวว่า การขับเคลื่อนเศรษฐกิจตอนนี้คือภาคท่องเที่ยวโดยปีนี้ ตั้งเป้าหมายมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 30 ล้านคน คาดมีเงินหมุนเวียน 5 แสนล้านบาท โดยในช่วง 6 เดือนแรกมีนักท่งเที่ยวเข้ามาแล้ว 13 ล้านคน ดังนั้นในช่วงครึ่งปีหลังจะมีนักท่องเที่ยเข้ามา 17-18 ล้านคน
ส่วนที่ห่วงว่าการเมืองจะยืดเยื้อ มีการชุมนุมต่อเนื่องจนกระทบท่องเที่ยวนั้น ในตอนนี้ยังเชื่อว่าไม่น่าจะมีเหตุการณ์อะไรที่รุนแรงประกอบกับในช่วง 1-2 เดือนนี้เป็นช่วงโลว์ซีซั่น แต่ถ้าเกิดเหตุรุนแรงขึนมากจนถึงขั้นประกาศเตือนนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทย ส่งผลให้นักท่องเที่ยวหายไป 10 ล้านคน อาจทำให้รายได้ท่องเที่ยวหายไป 5 แสนล้านบาท กระทบต่อจีดีพีถึงร้อยละ 1 ซึ่งไม่อยากให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น