ยูกันดาเร่งดึงทุนไทยผ่านงาน “Uganda Business Forum & Expo 2025 – Thailand Chapter” ชี้โอกาสทองในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เกษตร เทคโนโลยี และพลังงาน พร้อมชุดสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษี เขตเสรี
สถานเอกอัครราชทูตยูกันดาประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ (ซึ่งครอบคลุมเขตอาณาไทย) จัดงาน “The Pearl of Africa – Uganda Business Forum & Expo 2025 – Thailand Chapter” เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ เพื่อแนะนำยูกันดาในฐานะจุดหมายการลงทุนแห่งใหม่ของนักธุรกิจไทย พร้อมผลักดันความร่วมมือใน 4 อุตสาหกรรมสำคัญ ได้แก่ ท่องเที่ยวและบริการ, เกษตรและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง, เทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม, และเหมืองแร่–พลังงาน–น้ำมันและก๊าซ
ยูกันดายังเสนอแพ็กเกจ สิทธิประโยชน์การลงทุนแบบครบวงจร อาทิ เขตเศรษฐกิจเสรี การยกเว้นภาษีและอากรนำเข้า การรับรองการลงทุน รวมถึงสิทธิการโอนกำไรกลับประเทศอย่างเสรี พร้อมศูนย์บริการนักลงทุนแบบ One-Stop Service ย้ำศักยภาพการเป็น “ประตูสู่ตลาดผู้บริโภคกว่า 500 ล้านคน” ในภูมิภาคแอฟริกาตะวันออกและกลุ่ม COMESA
ยูกันดาชูเสถียรภาพเศรษฐกิจ พร้อมดึงไทยลงทุน
นายเฟรดริค งอบิ กูเม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อุตสาหกรรมและสหกรณ์ยูกันดา ระบุว่า งานครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวกับประเทศในเอเชีย โดยก่อนหน้านี้งานในอินโดนีเซียและมาเลเซียได้รับการตอบรับอย่างดี สะท้อนให้เห็นความสนใจจากนักลงทุนในศักยภาพของยูกันดา ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและมีเสถียรภาพสูง
ข้อมูลจาก IMF และธนาคารโลกระบุว่า GDP ของยูกันดาปี 2024–2025 คาดโต 6.2–6.4% และอาจเร่งตัวแตะระดับสองหลักเมื่ออุตสาหกรรมน้ำมันเดินเครื่องเต็มที่ ปัจจุบันยูกันดามีประชากรกว่า 51 ล้านคน ทำให้ตลาดภายในประเทศมีขนาดใหญ่ และมีแรงงานคุณภาพสูงรองรับการลงทุน ขณะที่มูลค่าการค้าระหว่างไทย–ยูกันดาในปี 2024 สูงกว่า 59 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังเติบโตได้อีกมาก
4 อุตสาหกรรมเด่นที่นักลงทุนไทยมีโอกาสสูง
1. การท่องเที่ยวและบริการ
ยูกันดาถูกขนานนามว่า “ไข่มุกแห่งแอฟริกา” เต็มไปด้วยธรรมชาติ สัตว์ป่า ภูเขา และแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก เปิดโอกาสให้ไทยลงทุนสร้างอีโคลอดจ์ รีสอร์ต ธีมพาร์ค พัฒนาสายการบิน การสร้างแบรนด์ประเทศ และการอบรมบุคลากรด้านการบริการ
2. เกษตรและการแปรรูปอาหาร
ภาคเกษตรเป็นฐานสำคัญของประเทศ คิดเป็น 70% ของการจ้างงาน ไทยสามารถลงทุนในโรงงานแปรรูป ผลิตปุ๋ยชีวภาพ พัฒนาระบบชลประทาน เครื่องจักรเกษตร และสร้างห่วงโซ่มูลค่าการส่งออกเชื่อมสู่ตลาดโลก
3. เทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม
ยูกันดากำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล เปิดรับการลงทุนด้าน FinTech ดาต้าเซ็นเตอร์ โครงข่ายสื่อสาร โซลูชัน Smart City, AI, IoT รวมถึงการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมบุคลากร ICT รองรับความต้องการแรงงานในอนาคต
4. เหมืองแร่ น้ำมัน และก๊าซ
ประเทศมีทรัพยากรสำคัญ เช่น ทองคำ ทองแดง โคบอลต์ เหล็ก และน้ำมัน เปิดโอกาสให้ไทยร่วมสำรวจกิจการเหมือง การกลั่น การเพิ่มมูลค่าแร่ และพลังงานหมุนเวียน รวมถึงโครงการพลังงานเชื่อมไทย–แอฟริกา
สิทธิประโยชน์การลงทุนเด่นของยูกันดา
ภายใต้กฎหมาย Investment Code และ Free Zones Act นักลงทุนจะได้รับสิทธิ เช่น:
-
โอนผลกำไรกลับประเทศได้อย่างเสรี โดยไม่ต้องขออนุญาตจากธนาคารกลาง
-
ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 10 ปี สำหรับธุรกิจในเขตเสรี
-
ยกเว้นอากรนำเข้า/ภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับวัตถุดิบและเครื่องจักร
-
ระบบ On-site Customs ตรวจปล่อยสินค้าภายในเขต
-
สิทธิการลดภาษี การยกเว้นภาษี R&D และค่าเสื่อมราคาพิเศษ สำหรับโครงการเชิงยุทธศาสตร์
-
เงินลงทุนขั้นต่ำ 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับนักลงทุนต่างชาติ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังได้รับความคุ้มครองภายใต้ MIGA และสนธิสัญญาภาษีซ้อน (DTA) ลดความเสี่ยงด้านกฎหมายและการเวนคืน
ยูกันดา: ประเทศที่มีเสถียรภาพสูง พร้อมรองรับการเติบโตระยะยาว
รัฐบาลยูกันดาให้ความสำคัญกับการพัฒนาความมั่นคงภายในประเทศ ภายใต้หลัก Patriotism, Democracy & Good Governance ทำให้สภาพแวดล้อมปลอดภัย ระบุได้จากงาน “Martyrs’ Day” ที่มีผู้ร่วมกว่า 3 ล้านคนทุกปีโดยไม่มีเหตุรุนแรง รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 1 ล้านคนต่อปี
การพัฒนาเกษตรเชิงพาณิชย์ การยกระดับเครื่องจักรการผลิต และระบบศูนย์บริการนักลงทุนครบวงจร ทำให้ยูกันดากลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความมั่นคงและเหมาะแก่การลงทุนมากที่สุดในแอฟริกาตะวันออก