สำนักงานสถิติฯ รายงานกำลังแรงงาน 40.2 ล้านคน ผู้มีงานทำอยู่ในระดับสูง ขณะภาคบริการ–ขนส่งยังขยายตัว แม้ก่อสร้างและอสังหาฯ ลดแรงงานตามภาวะเศรษฐกิจชะลอ

ดร. เอกพงษ์ หริ่มเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยผลสำรวจสถานการณ์แรงงานไตรมาส 3 ปี 2568 พบว่า ประเทศไทยมีประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไปจำนวน 59.49 ล้านคน ในจำนวนนี้อยู่ในกำลังแรงงาน 40.20 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 67 ขณะที่อีก 19.29 ล้านคน หรือร้อยละ 32.4 อยู่นอกกำลังแรงงาน

จากกำลังแรงงานทั้งหมด 40.2 ล้านคน พบว่า มีผู้ว่างงาน 3.1 แสนคน ผู้รอฤดูกาล 4 หมื่นคน และผู้มีงานทำ 39.85 ล้านคน แบ่งเป็นผู้มีงานทำในภาคเกษตรกรรม 11.86 ล้านคน ลดลงร้อยละ 2.9 และภาคนอกเกษตรกรรม 27.99 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 หรือประมาณ 1.6 แสนคน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับภาคเศรษฐกิจที่มีการเติบโตโดดเด่น ได้แก่

• กลุ่มบริการอื่น ๆ ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 11.2

• กลุ่มการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า ยังคงเติบโตต่อเนื่อง เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9

• กลุ่มการผลิต มีการเพิ่มขึ้นเช่นกัน

ขณะเดียวกัน หลายอุตสาหกรรมมีจำนวนผู้มีงานทำลดลง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ภาคธุรกิจลดการจ้างงานและปรับใช้เทคโนโลยีใหม่เพื่อลดต้นทุน รวมถึงการลงทุนโครงการใหม่ของภาคเอกชนที่ลดลง ส่งผลให้ความต้องการแรงงานลดลง โดยเฉพาะ กลุ่มก่อสร้าง และ กลุ่มกิจกรรมอสังหาริมทรัพย์ ที่มีจำนวนผู้ทำงานลดลงอย่างมาก

โดยรวมแล้ว ตลาดแรงงานไทยยังคงมีเสถียรภาพ อัตราการมีงานทำยังอยู่ในระดับสูง และอัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำ สะท้อนการปรับตัวของแรงงานจากภาคเกษตรสู่ภาคบริการและโลจิสติกส์ แม้เศรษฐกิจจะเผชิญความท้าทาย แต่หลายภาคส่วนยังคงเติบโตได้ดี ทั้งนี้ จำเป็นต้องเร่งพัฒนาทักษะแรงงาน และสนับสนุนอุตสาหกรรมที่หดตัว เพื่อเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระยะยาว

ข้อมูลสถานการณ์แรงงานถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อการกำหนดนโยบายและวางแผนพัฒนากำลังคนของประเทศ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์สำนักงานสถิติแห่งชาติ www.nso.go.th