สอน. ชูความสำเร็จลดอ้อยไฟไหม้ต่ำสุดในประวัติการณ์ เตรียมเดินหน้ามาตรการเข้มรับฤดูหีบปี 68/69

สอน. ชูความสำเร็จลดอ้อยไฟไหม้ต่ำสุดในประวัติการณ์ เตรียมเดินหน้ามาตรการเข้มรับฤดูหีบปี 68/69
สอน. เผยอ้อยไฟไหม้เหลือเพียง 14.86% ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เดินหน้ามาตรการเข้มปี 68/69 จำกัดรับอ้อยเผา หนุนตัดสด และประกาศวันเปิดหีบโรงงานตามระดับการเผาในปีที่ผ่านมา

นายใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า ฤดูการผลิตอ้อยปี 2567/2568 เป็นปีที่ประสบความสำเร็จอย่างชัดเจนในการลดการเผาอ้อย โดยสามารถลดสัดส่วนอ้อยเผาเหลือเพียง 14.86% ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนถึงความร่วมมือของเกษตรกร โรงงานน้ำตาล และหน่วยงานภาครัฐ ที่ร่วมกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายไปสู่ “อุตสาหกรรมสีเขียว” ตามแนวทาง “MIND as One” ของกระทรวงอุตสาหกรรม

สำหรับ ฤดูการผลิตปี 2568/2569 สอน. เตรียมดำเนินมาตรการแบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ทั้งด้านกฎหมาย การเงิน เทคโนโลยี และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยกำหนดให้โรงงานน้ำตาล รับอ้อยเผาไม่เกิน 20% ต่อวัน และตลอดฤดูกาลต้องไม่เกิน 10% พร้อมกำหนดให้โรงงานหยุดรับอ้อยระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2568 – 4 มกราคม 2569 และรับเฉพาะ อ้อยสด ในช่วงต้นฤดูหีบ เพื่อช่วยลดปัญหามลพิษและสร้างบรรยากาศที่ดีในช่วงเทศกาลปีใหม่ นอกจากนี้ยังเตรียมปรับปรุงกฎระเบียบเกี่ยวกับการตัดและส่งอ้อยให้ทันสมัย และออกแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตน้ำตาลตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำ

นายใบน้อยระบุว่า สอน. ยังมีมาตรการสนับสนุนเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการเงินและแรงจูงใจ เช่น สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำปี 2568 – 2570 วงเงินรวม 6,000 ล้านบาท เพื่อใช้บริหารจัดการแหล่งน้ำและจัดซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร รวมถึงการผลักดันนโยบายด้าน BOI การยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับรถตัดอ้อยและเครื่องสางใบอ้อย การลดหย่อนภาษีให้ผู้ประกอบการที่ร่วมลดการเผาอ้อย การสนับสนุนงบประมาณจูงใจให้เกษตรกรตัดอ้อยสดคุณภาพดี 100% และการส่งเสริมการใช้ใบและยอดอ้อยในการผลิตพลังงานชีวมวล ซึ่งจะช่วยลดของเหลือทิ้งและสร้างรายได้เสริมให้ชุมชน

ด้านนายสิทธิรงณ์ เร่งเงียบ รองเลขาธิการฯ กล่าวเสริมว่า เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลไทย โดย สอน. ยังเดินหน้าวิจัยและพัฒนาเครื่องจักรต้นแบบและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ควบคู่กับการสร้างความตระหนักรู้ ผ่านการอบรมเกษตรกรเกี่ยวกับการตัดอ้อยสด การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการสร้างเครือข่ายชุมชนตัดอ้อยสดคุณภาพดี พร้อมระบบติดตามและประเมินผลระดับจังหวัด สอน. เชื่อมั่นว่ามาตรการที่เข้มแข็งและความร่วมมือจากทุกฝ่ายจะทำให้อุตสาหกรรมอ้อยของไทยเติบโตอย่างยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 ยังมีมติอนุมัติวันเปิดหีบอ้อยของโรงงานน้ำตาลทั้ง 58 แห่งทั่วประเทศ โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่มตามสัดส่วนอ้อยเผาในฤดูกาลที่ผ่านมา ได้แก่
    •    กลุ่ม 1 (≤ 5%) เปิดหีบ 1 ธันวาคม 2568
    •    กลุ่ม 2 (5.01–15%) เปิดหีบ 6 ธันวาคม 2568
    •    กลุ่ม 3 (15.01–25%) เปิดหีบ 8 ธันวาคม 2568
    •    กลุ่ม 4 (> 25.01%) เปิดหีบ 11 มกราคม 2569

กอน. ยังเห็นชอบ ราคาอ้อยขั้นสุดท้าย เฉลี่ยทั่วประเทศ ฤดูการผลิต 2567/2568 อยู่ที่ 1,152.62 บาทต่อตันอ้อย ที่ความหวาน 10 ซี.ซี.เอส. พร้อมกำหนดอัตราขึ้น/ลงราคาอ้อยที่ 69.16 บาทต่อ 1 หน่วยซี.ซี.เอส. และผลตอบแทนจากการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายที่ 493.89 บาทต่อตันอ้อย

TAGS: #สอน #กระทรวงอุตสาหกรรม #เกษตรกรไทย #โรงงานน้ำตาล #ลดการเผาอ้อย