FETCO เตือนภาวะฟองสบู่ตลาดหุ้นทั่วโลกยังดำเนินต่อ แม้ Fed ลดดอกเบี้ยช่วยหนุนสภาพคล่อง ส่วนความเชื่อมั่นนักลงทุนไทยกลับมา ร้อนแรงจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ

สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) รายงานสถานการณ์การลงทุนและเศรษฐกิจไทยและต่างประเทศ ประจำเดือนพฤศจิกายน โดย ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ FETCO ให้ข้อมูลว่า

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล เตือนว่าตลาดทุนทั่วโลกยังเผชิญภาวะฟองสบู่ เนื่องจากสภาพคล่องล้นระบบ แม้ Fed เคยพยายามลดสภาพคล่อง แต่ปัจจุบันได้ยุติมาตรการลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening) ซึ่งยังคงอยู่ที่ 6.6 ล้านล้านดอลลาร์ สูงกว่าระดับปกติ 1–2 ล้านล้านดอลลาร์

“การลดดอกเบี้ยและสภาพคล่องสูง ทำให้ต้นทุนเก็งกำไรต่ำ การเก็งกำไรก็จะต่อเนื่อง ฟองสบู่จึงยังไปต่อได้อีกระยะหนึ่ง” ดร.กอบศักดิ์กล่าว

อย่างไรก็ตาม เมื่อ Fed จบวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง ธนาคารกลางทั่วโลกอาจเริ่มเตือนถึงความเสี่ยงฟองสบู่และกลับขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้ตลาดปรับตัวลงรุนแรง คล้ายเหตุการณ์ในปี 2565 ดังนั้นนักลงทุนควรเตรียมตัวรับมือ โดยลงทุนด้วยเงินเย็นและถอนเงินต้นออก เหลือเพียงกำไรที่สามารถเสียได้

ในช่วงที่ผ่านมา ราคาสินทรัพย์ทั่วโลกที่เคยทำจุดสูงสุด (All-time high) ปรับตัวขึ้นลงรุนแรง เช่น ราคาทองคำลดจาก 4,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็น 3,900 ดอลลาร์ภายในสัปดาห์เดียว ดัชนี Nikkei ลดจาก 52,500 จุด เป็น 49,000 จุด หุ้น Nvidia ลด 15% จาก 210 ดอลลาร์ เป็น 180 ดอลลาร์ใน 10 วัน

สำหรับแนวโน้ม Fed คาดว่าจะลดดอกเบี้ย 0.75% ในปีหน้า ไปอยู่ที่ 3% และคงระดับนี้ประมาณ 2 ปี ก่อนเริ่มขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง หากประธาน Fed คนใหม่เป็นผู้สนับสนุนแนวนโยบาย Dovish อัตราดอกเบี้ยอาจลดลงถึง 2.5%

เตรียมทบทวนการตั้งราคาหุ้น IPO ไทย

ดร.กอบศักดิ์กล่าวว่า หุ้น IPO หลายตัวปรับลดต่ำกว่าราคาเสนอขาย สาเหตุหลักคือการตั้งราคา หากตั้งสูงเกินไปทำให้ผู้จองเสียหาย จึงต้องหารือกับบริษัทหลักทรัพย์และที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อปรับปรุงกระบวนการ นอกจากนี้ควรส่งเสริมหุ้นที่เป็นธุรกิจอนาคต แทนหุ้นธุรกิจทั่วไป

นอกจากนี้ ยังมีความกังวลว่าหุ้นบางกลุ่มอาจไปเสนอขายในตลาดต่างประเทศ เพราะมองว่าตลาดหุ้นไทยมี P/E ต่ำ ซึ่งต้องเร่งปฏิรูปตลาดทุนไทย

ความเชื่อมั่นนักลงทุนฟื้น ตลาดหุ้นไทยร้อนแรง

ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนไทยเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ 135.73 อยู่ในเกณฑ์ร้อนแรง ปรับตัวดีขึ้นจากกลางปี ได้แรงสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ นักลงทุนสนใจหุ้นกลุ่มพาณิชย์มากที่สุด ส่วนคนไทยยังนิยมหุ้นธนาคาร

แนวโน้มอีก 3 เดือนข้างหน้าก็ยังร้อนแรง เนื่องจากสถานการณ์การเมืองและความขัดแย้งชายแดนกัมพูชาคลี่คลาย ดัชนี SET เคลื่อนไหวดีขึ้น จาก 1,000 จุด มายืนที่ 1,300 จุด ความเชื่อมั่นนักลงทุนทุกกลุ่มกลับมาในทิศทางเดียวกัน

FETCO มองว่าปลายปีนี้ SET จะอยู่กรอบล่าง 1,300 จุด และมี Upside เพิ่มจากคาดการณ์ Fed ลดดอกเบี้ยเดือนธันวาคม สำหรับปี 2568 คาดเศรษฐกิจไทยขยายตัว 1.5–2% จากภาคการท่องเที่ยวและส่งออก ปี 2569 SET มีโอกาสขึ้นไป 1,415 จุด ขึ้นอยู่กับการเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ เงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) และการเลือกตั้งประธาน Fed คนใหม่ ซึ่งอาจทำให้เงินทุนไหลออกจากสหรัฐฯ ไปยังตลาดอื่น