"ศุภจี" หารือ “ทูตอินเดีย” ปักหมุดหุ้นส่วนเศรษฐกิจยุคใหม่

“รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์” หารือ “ทูตอินเดีย” ปักหมุดหุ้นส่วนเศรษฐกิจยุคใหม่ ผลักดันการค้าเสรีครอบคลุมทุกมิติ

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เผยผลการหารือทวิภาคีกับนายนาเกช ซิงค์ เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าสู่การเป็น "หุ้นส่วนยุทธศาสตร์" เพื่อขยายโอกาสทางการค้าและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจท่ามกลางความผันผวนของภูมิรัฐศาสตร์โลก

นางศุภจี เน้นย้ำว่า ไทยพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนความสัมพันธ์ภายใต้ “ปฏิญญาร่วมว่าด้วยการสถาปนาความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์” ที่ลงนามเมื่อเดือนเมษายน 2568 โดยไทยเล็งเห็นศักยภาพมหาศาลของอินเดียในฐานะประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก และมีประชากร Gen Z มากที่สุด ซึ่งสะท้อนถึงกำลังซื้อและการขยายตัวของชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว


ในการหารือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้เสนอให้อินเดียสานต่อการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีไทย - อินเดีย โดยยกระดับให้เป็น Comprehensive FTA ที่ครอบคลุมทั้งการค้าสินค้า บริการ การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เพื่อเปิดโอกาสทางการค้าให้เต็มที่

ในระยะสั้น ทั้งสองฝ่ายจะเร่งรัดการจัดทำ ความตกลงยอมรับร่วมด้านมาตรฐานสินค้า (MRA) เพื่อลดอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี และริเริ่มการใช้ หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าแบบลายมือชื่อและตราประทับอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการ

นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังเห็นพ้องที่จะส่งเสริมการเชื่อมโยงห่วงโซ่มูลค่า โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่เกื้อกูลการผลิตระหว่างกัน อาทิ อัญมณีและเครื่องประดับ เคมีภัณฑ์ และอาหารแปรรูป พร้อมทั้งร่วมกันพัฒนาฐานการผลิตเพื่อป้อนตลาดอินเดียและส่งออกไปยังประเทศที่สาม โดยใช้ประโยชน์จากสถานะของไทยที่เป็นจุดยุทธศาสตร์เชื่อมอินเดียสู่ภูมิภาคอาเซียน


เพื่อกระตุ้นการค้าและการลงทุน รัฐมนตรีฯ ศุภจีมีแผนจะนำคณะเอกชนไทยเยือนเมือง มุมไบ ในช่วงเดือน มกราคม 2569 เพื่อเข้าร่วมกิจกรรม Business Networking ในสาขาวัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ และผลิตภัณฑ์ยั่งยืน เพื่อสร้างเครือข่ายทางธุรกิจและขยายความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการค้าทวิภาคี


ปัจจุบัน อินเดียเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้ โดยในปี 2567 การค้ารวมมีมูลค่า 17,457.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 8.83 และไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้า

สำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 (ม.ค. - ก.ย.) การค้ารวมขยายตัวสูงกว่าร้อยละ 28.25 มีมูลค่ารวม 16,381.63 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยยังคงได้ดุลการค้าสูงถึง 7,432.21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนถึงความแข็งแกร่งและโอกาสในการขยายตลาดสินค้าไทย โดยเฉพาะในกลุ่มเม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ และอัญมณีและเครื่องประดับ
 

TAGS: #พาณิชน์ #ศุภจี #ทูตอินเดีย