กรมการค้าต่างประเทศ เผย 8 เดือนแรกปี 2568 ไทยใช้สิทธิ FTA พุ่งกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์ หนุนส่งออกขยายตัวต่อเนื่อง ชี้ "อาเซียน-จีน" คือฐานหลัก “ทุเรียน–ยานยนต์” ครองแชมป์สินค้าขอใช้สิทธิสูงสุด
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนมกราคม–สิงหาคม 2568 การใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ FTA ของไทยมีมูลค่ารวม 60,245.93 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 8.40% โดยตลาดอาเซียนภายใต้ ATIGA มีมูลค่าสูงสุด 21,117.59 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (สัดส่วน 68.69%) รองลงมาคืออาเซียน–จีน (ACFTA) มูลค่า 17,354.43 ล้านดอลลาร์ (สัดส่วน 93.99%) อาเซียน–อินเดีย (AIFTA) 6,895.92 ล้านดอลลาร์ (สัดส่วน 74.53%) ไทย–ญี่ปุ่น (JTEPA) 4,628.99 ล้านดอลลาร์ (สัดส่วน 84.05%) และไทย–ออสเตรเลีย (TAFTA) 3,625.78 ล้านดอลลาร์ (สัดส่วน 56.12%)
สินค้าที่มีการขอใช้สิทธิสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ยานยนต์สำหรับขนส่งของ ทุเรียนสด ยางสังเคราะห์ผสมยางธรรมชาติ แพลทินัมยังไม่ได้ขึ้นรูป และเนื้อไก่ปรุงแต่ง โดยตลาดจีนยังเป็นฐานสำคัญของสินค้าเกษตรไทย โดยเฉพาะทุเรียน ขณะที่ตลาดอินเดียขยายตัวโดดเด่นในกลุ่มเครื่องเพชรพลอยและแพลทินัม
สำหรับสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป มูลค่ารวม 17,077.63 ล้านดอลลาร์ (28.35%) ส่วนสินค้าอุตสาหกรรมคิดเป็น 43,168.31 ล้านดอลลาร์ (71.65%) โดยยานยนต์และยางสังเคราะห์ยังเป็นสินค้าหลักของภาคอุตสาหกรรม
นางอารดากล่าวว่า ในยุคเศรษฐกิจโลกผันผวนและมาตรการทางการค้าเข้มงวด การใช้สิทธิ FTA เป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการลดอุปสรรคทางภาษี สร้างแต้มต่อให้ผู้ประกอบการ และเปิดตลาดใหม่ โดยไทยอยู่ระหว่างเร่งผลักดัน FTA ฉบับใหม่กับยุโรปและเกาหลีใต้ รวมถึงขยายความร่วมมือกับตลาดศักยภาพใหม่ เพื่อเสริมความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจและดึงดูดการลงทุน
ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศยังเดินหน้าจัดสัมมนาและเวิร์กช็อปทั่วประเทศในปีงบประมาณ 2569 ครอบคลุม 12 จังหวัด เป้าหมายอบรมไม่น้อยกว่า 1,200 ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs เพื่อให้เข้าใจการใช้สิทธิ FTA อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพ
ผู้สนใจติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.dft.go.th หรือสายด่วน 1385.