Krungthai GLOBAL MARKETS เผย ค่าเงินบาทเปิดตลาดอ่อนค่า แตะ 32.40 บาทต่อดอลลาร์ หลังประธานเฟด ส่งสัญญาณอาจไม่ลดดอกเบี้ยเดือน ธ.ค. ขณะที่ ตลาดจับตา BOJ-ECB ต่อ

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาท (USD/THB) เปิดเช้านี้ที่ระดับ 32.40 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่ง อ่อนค่าลง จากระดับปิดวันก่อนที่ 32.27 บาทต่อดอลลาร์ โดยเป็นผลจากการที่เงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลง

ปัจจัยหลักที่กดดันเงินบาท:

ท่าทีของเฟดที่ระมัดระวัง: แม้เฟดจะมีมติลดดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% และยุติการลดงบดุล (QT) ตามที่ตลาดคาด แต่มีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นจากมติที่ ไม่เป็นเอกฉันท์ (มีกรรมการ 2 ท่านเห็นต่าง) และการแถลงของประธานเฟด เจอโรม พาวเวล  ที่ระบุว่า การลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมยังไม่แน่นอน (not a foregone conclusion)

ผลกระทบต่อตลาด: ท่าทีของ  พาวเวล ทำให้ผู้เล่นในตลาด ปรับลดความคาดหวัง ต่อการลดดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธันวาคมเหลือ 67% ส่งผลให้ เงินดอลลาร์ และ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ รีบาวด์แข็งค่าขึ้น และกดดันทั้ง ราคาทองคำ (ร่วงสู่ 3,950-3,960 ดอลลาร์/ออนซ์ ก่อนรีบาวด์) และ ค่าเงินบาท

ตลาดหุ้นผันผวน: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เคลื่อนไหวผันผวนเล็กน้อย โดย S&P500 ปิดที่ -0.004% ขณะที่ Nasdaq ปรับขึ้น +0.55% จากแรงหนุนหุ้นเทคฯ เช่น Nvidia

แนวโน้มค่าเงินบาท 24 ชั่วโมง:

คาดการณ์: เงินบาทมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways ไปก่อน เนื่องจากตลาดยังอยู่ในช่วงขาดการรับรู้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ จากภาวะ US Government Shutdown

กรอบคาดการณ์: 32.25 - 32.55 บาท/ดอลลาร์

ข้อควรระวัง: ความผันผวนของเงินบาทกลับมาอยู่ในระดับสูง

สิ่งที่ต้องจับตาต่อไป:

ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นผลการประชุมของธนาคารกลางหลักอื่นๆ ในวันนี้ ซึ่งคาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิม แต่ต้องติดตามถ้อยแถลงของผู้บริหารอย่างใกล้ชิด:

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ): คาดคงดอกเบี้ยที่ 0.50% แต่มีความเสี่ยงที่ BOJ อาจขึ้นดอกเบี้ยเซอร์ไพรส์ตลาด

ธนาคารกลางยุโรป (ECB): คาดคงดอกเบี้ย (Deposit Facility Rate) ที่ 2.00%

รายงานเศรษฐกิจ: อัตราการเติบโตเศรษฐกิจยูโรโซนไตรมาส 3 และข้อมูลเศรษฐกิจญี่ปุ่น (อัตราเงินเฟ้อโตเกียว, ตลาดแรงงาน, ยอดค้าปลีก) ที่จะรายงานในช่วงเช้าวันศุกร์