สงครามการค้าระลอกใหม่จากนโยบายภาษีสหรัฐฯ ส่อกระทบ SME ไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม ศูนย์วิจัย SCB EIC ชี้ SME ต้องเร่งปรับตัว ลดต้นทุน สร้างนวัตกรรม หาตลาดใหม่ และเข้าใจกฎการค้าโลก

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ เผยบทวิเคราะห์ล่าสุดชี้ “สงครามการค้ารอบใหม่” ที่เกิดจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ อาจเป็นทั้ง วิกฤติ และ โอกาส ของผู้ประกอบการ SME ไทย พร้อมเตือนให้เร่งปรับตัวเพื่อรับมือผลกระทบที่กำลังจะเกิดขึ้น

แม้สหรัฐฯ จะเป็นตลาดส่งออกอันดับ 2 ของ SME ไทย แต่แรงกระทบที่แท้จริงจะมาจาก ผลกระทบทางอ้อม ผ่านห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมหลัก เช่น ยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ที่ SME ไทยเป็นส่วนหนึ่ง รวมถึงความเสี่ยงจากต้นทุนที่สูงขึ้นและการแข่งขันจากสินค้าราคาถูก โดยเฉพาะจากจีน

EIC แนะ 4 แนวทางสำคัญที่ SME ควรเร่งดำเนินการ:

1. ลดต้นทุนด้วยเทคโนโลยี
   เช่น ใช้ระบบ ERP บนคลาวด์ ระบบ AI บริหารสต๊อก และเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน

2. ขยับบทบาทในห่วงโซ่คุณค่า
   จากผู้รับจ้างผลิต สู่ผู้สร้างนวัตกรรมและแบรนด์ของตนเอง เช่น ผลิตภัณฑ์สีเขียว

3. กระจายความเสี่ยง-หาตลาดใหม่
   จับมือพันธมิตร เจาะตลาดเกิดใหม่ เช่น ตะวันออกกลาง อินเดีย หรือยุโรปตะวันออก

4. รู้เท่าทันกติกาการค้าโลก
   ปรับแหล่งวัตถุดิบให้ผ่านกฎถิ่นกำเนิด (Rules of Origin) และยกระดับมาตรฐานการผลิตให้ตอบรับกฎระเบียบใหม่ๆ เช่น สิ่งแวดล้อม

EIC ยังเน้นว่า รัฐต้องมีบทบาทเชิงรุกในการสนับสนุน SME ทั้งด้านเงินทุน เทคโนโลยี และข้อมูลเชิงลึก เพื่อให้สามารถปรับตัวได้ทันท่วงที

สงครามการค้าอาจเป็น แรงกระตุ้นครั้งสำคัญ ที่ผลักดัน SME ไทยให้ยกระดับจากฐานราก หากรับมือได้เร็วและแม่นยำ จะไม่เพียงแค่รอดพ้น แต่จะกลายเป็นโอกาสสร้างความยั่งยืนในอนาคต