กรมการค้าต่างประเทศเผย มูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้า FTA ของไทย ช่วงม.ค.-ก.ค. 2568 รวมกว่า 53,421 ล้านดอลลาร์ โต 11.57% ตลาดอาเซียน จีน และอินเดีย ยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก

กรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยตัวเลขการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้า ภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ของไทย ช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2568 มูลค่ารวม 53,421.24 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.70 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 81.59% เพิ่มขึ้น 11.57% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ระบุว่า การส่งออกไปยังอาเซียนภายใต้ ATIGA มีมูลค่าสูงสุด 18,505.89 ล้านดอลลาร์ ตามด้วย ACFTA 16,046.17 ล้านดอลลาร์ และ AIFTA 6,232.98 ล้านดอลลาร์ ส่วน JTEPA และ TAFTA อยู่ที่ 3,670.36 และ 3,195.98 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ

สินค้าที่ใช้สิทธิ FTA สูงสุด ได้แก่ ทุเรียนสด, ยานยนต์, ยางสังเคราะห์, แพลทินัมกึ่งสำเร็จรูป และน้ำตาลจากอ้อย โดยสินค้าเกษตร 5 อันดับแรก มูลค่ารวม 15,713.28 ล้านดอลลาร์ หรือ 29.41% ของมูลค่าการใช้สิทธิฯ ทั้งหมด ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรม 5 อันดับแรก มูลค่ารวม 37,707.96 ล้านดอลลาร์ หรือ 70.59%

อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศชี้ว่า การใช้สิทธิ FTA เป็นเครื่องมือสำคัญในการลดอุปสรรคทางการค้าและสร้างแต้มต่อด้านภาษีให้ผู้ประกอบการไทย ช่วยกระจายความเสี่ยง ลดการพึ่งพาตลาดเดิม และขยายสู่ตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะตลาดอาเซียน จีน และอินเดีย

“ทุเรียนยังคงครองแชมป์ผลไม้ส่งออกอันดับหนึ่ง ขณะที่ตลาดอินเดียเติบโตต่อเนื่อง นอกจากนี้สินค้าแพลทินัมและอัญมณี-เครื่องประดับยังมีการขยายตัวโดดเด่น สะท้อนศักยภาพผู้ประกอบการไทยในการใช้สิทธิ FTA อย่างเต็มที่” นางอารดากล่าว

กรมการค้าต่างประเทศยังส่งเสริมการใช้สิทธิฯ ผ่านการจัดสัมมนาทั่วประเทศในปีงบประมาณ 2568 ครอบคลุม 10 จังหวัด มีผู้เข้าร่วมรวม 1,364 คนเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ และในปีงบประมาณ 2569 จะเดินหน้าส่งเสริมและขยายการใช้สิทธิฯ อย่างเข้มข้นต่อเนื่อง