หนี้ครัวเรือนไทยลดต่อเนื่องแตะ 87.4% ของ GDP ครั้งแรกในรอบหลายปี EIC เตือนแนวโน้มลดหนี้อาจกดดันกำลังซื้อในประเทศ
SCB EIC รายงานว่า สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ของไทยในไตรมาสแรกปี 2025 ปรับลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ 87.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบหลายปี สะท้อนพฤติกรรม “ลดหนี้” (Deleveraging) ของภาคครัวเรือน ที่เกิดจากการขยายตัวของสินเชื่อที่ชะลอลงอย่างชัดเจน และล่าสุดหดตัว -0.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (YoY) เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการเปิดเผยข้อมูลชุดนี้
แนวโน้มดังกล่าวมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน จากความกังวลต่อคุณภาพของหนี้ที่เริ่มส่งสัญญาณถดถอย รวมถึงเศรษฐกิจไทยที่ยังเติบโตต่ำกว่าระดับก่อนการระบาดของ COVID-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้และความสามารถในการก่อหนี้ของครัวเรือน
มาตรการ “คุณสู้ เราช่วย” เสริมแรงจูงใจชำระหนี้ในระยะสั้น แต่ยังไม่พอสำหรับฟื้นความสามารถในการกู้ยืม
ในภาวะที่ความสามารถในการชำระหนี้ของประชาชนยังเปราะบาง รัฐบาลได้ออกมาตรการเพิ่มเติมภายใต้โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ซึ่งในเฟสที่สองมีการปรับเงื่อนไขให้ผ่อนปรนมากขึ้น และครอบคลุมลูกหนี้ที่มีปัญหาทางการเงินได้กว้างขวางกว่าเดิม โดยเฉพาะการขยายระยะเวลาการเข้าร่วมโครงการ ซึ่งอาจช่วยชะลอการเพิ่มขึ้นของหนี้เสีย (NPL) และส่งเสริมการชำระหนี้ในระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของรายได้ภาคครัวเรือนยังคงเป็นปัจจัยชี้ขาดว่า ลูกหนี้เหล่านี้จะสามารถกลับมาอยู่ในระบบการเงินได้อย่างยั่งยืนหรือไม่ เพราะหากเศรษฐกิจยังฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า โอกาสที่ลูกหนี้จะกลับมาเผชิญปัญหาเดิมก็ยังมีอยู่สูง
แนวโน้มลดหนี้อาจกระทบการบริโภคภาคเอกชน
SCB EIC คาดการณ์ว่า แนวโน้มการลดหนี้ครัวเรือนจะยังคงดำเนินต่อไปตลอดปี 2025 โดยประเมินว่าสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP จะลดลงมาอยู่ในช่วง 85.5-86.5% ภายในสิ้นปี
อย่างไรก็ตาม แม้การลดหนี้จะช่วยลดความเปราะบางทางการเงินในระยะยาว แต่ในระยะสั้นกลับสร้างแรงกดดันต่อการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะเมื่อรายได้ของครัวเรือนยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และการเข้าถึงสินเชื่อยังคงถูกจำกัดจากความระมัดระวังของสถาบันการเงิน
ภาวะ Deleveraging นี้จึงกลายเป็นทั้ง "โอกาส" และ "ความเสี่ยง" ในเวลาเดียวกัน — เป็นโอกาสในการปรับสมดุลทางการเงินของครัวเรือน แต่ก็เป็นความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภาพรวม หากไม่มีแรงส่งจากรายได้หรือการบริโภคเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป
อ่านบทวิเคราะห์เพิ่มเติมได้จาก https://www.scbeic.com/th/detail/product/Household-Debt-150725?utm_source=Influencer&utm_medium=Link&utm_campaign=INFOCUS_Household_Debt_JUL_2025