‘พีระพันธุ์’ เตรียมรื้อโครงสร้างไฟฟ้า เปิดทางกฟผ.เพิ่มสัดส่วนผลิตไฟฟ้าแทนเอกชน หลังมองต้นตอทำค่าไฟฟ้าแพง หนุนติดโซลาร์รูฟท็อปบ้านเรือนง่ายขึ้น
น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน กำลังเร่งเดินหน้าปฏิรูประบบโครงสร้างไฟฟ้าของประเทศครั้งใหญ่ เพื่อแก้ไขปัญหาราคาค่าไฟฟ้าที่ประชาชนต้องแบกรับมานาน และเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน
ทั้งนี้ที่ผ่านมาประชาชนจำนวนมากสงสัยว่า ทำไมประเทศไทยซึ่งมีโรงไฟฟ้าเอง แต่ยังต้องจ่ายค่าไฟแพง สาเหตุสำคัญมาจากโครงสร้างระบบไฟฟ้าที่ซับซ้อน และการพึ่งพาภาคเอกชนในการผลิตไฟฟ้ามากเกินไป ซึ่งสาเหตุที่ต้นทุนค่าไฟของประเทศไทยสูง เพราะต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG)จากต่างประเทศ ซึ่งมีราคาผันผวนตามตลาดโลก อีกทั้งยังมีสัญญาซื้อขายไฟจากเอกชนที่ยาวถึง 20 ปี ทำให้ประชาชนต้องแบกรับราคาที่ไม่เป็นธรรมทุกเดือน
อย่างไรก็ตามนายพีระพันธุ์ ได้ประกาศแนวทางสำคัญ เตรียม “รื้อแผนพีดีพี” หรือแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศครั้งใหม่ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐ อย่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีบทบาทมากขึ้น ลดการพึ่งพาเอกชน และลดต้นทุนค่าไฟอย่างแท้จริงพร้อมผลักดันกฎหมายส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ที่จะทำให้ประชาชนสามารถติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องผ่านขั้นตอนขออนุญาตให้ยุ่งยากอีกต่อไป เพียงแค่ “แจ้ง” ก็สามารถดำเนินการได้ ซึ่งขณะนี้ ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวอยู่ระหว่างนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาเห็นชอบ
นอกจากนี้ ยังเร่งเจรจากับผู้ผลิตโดยตรง เพื่อให้คนไทยเข้าถึงโซลาร์เซลล์ในราคาประหยัด เพื่อให้คนไทยเข้าถึงพลังงานสะอาดแบบสบายกระเป๋ามากขึ้น ซึ่งการลดค่าไฟไม่ใช่แค่การช่วยภาคครัวเรือน แต่ยังช่วยลดต้นทุนการผลิตของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมอีกด้วย โรงงานกว่า 7 หมื่นแห่งทั่วประเทศต้องใช้ไฟฟ้าปริมาณมาก หากค่าไฟถูกลง สินค้าก็มีโอกาสถูกลง ประชาชนได้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม เศรษฐกิจก็จะหมุนเวียนดีขึ้น
"รัฐบาลขอย้ำว่า พลังงานคือเรื่องความมั่นคงของชาติและความเป็นอยู่ของคนไทย และเข้าใจดีว่าปัญหาค่าไฟฟ้าที่สะสมมานานสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนไม่น้อย รัฐบาลกำลังเดินหน้าแก้ไขอย่างจริงจังทุกมิติ ขอให้ทุกคนมั่นใจและร่วมเป็นกำลังใจให้การปฏิรูปครั้งนี้สำเร็จ เพื่อประโยชน์ของคนไทยทุกคนอย่างแท้จริง”