ค่าก่อสร้างบ้าน เพิ่มขึ้นอีก 3.5% ไม้-ผลิตภัณฑ์ไม้และสุขภัณฑ์-ค่างานออกแบบพุ่ง
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) รายงานดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน ไตรมาส 1 ปี 2566 มีค่าดัชนีเท่ากับ 134.4 โดยภาพรวมเพิ่มขึ้น 3.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 เป็นผลจากค่าตอบแทนในหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบปรับขึ้นทุกรายการ โดยเพิ่มขึ้นมากที่สุดในหมวดงานสถาปัตยกรรม 8.8%
ขณะที่หมวดวัสดุก่อสร้างประเภทไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ และ สุขภัณฑ์ เพิ่มขึ้นกว่า 13.0% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2565
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ รายงานดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน ไตรมาส 1 ปี 2566 มีค่าดัชนีเท่ากับ 134.4 เพิ่มขึ้น 1.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2565 และเพิ่มขึ้น 3.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการ REIC ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยว่า องค์ประกอบของดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน หมวดราคาวัสดุก่อสร้างมีการปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2565 ทั้ง 7 รายการ ได้แก่ สุขภัณฑ์ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ กระเบื้อง เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก อุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา ผลิตภัณฑ์คอนกรีต และวัสดุก่อสร้างอื่นๆ โดยพบว่าราคาสุขภัณฑ์มีการปรับเพิ่มขึ้นมากถึง 13.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 ใน
ขณะที่ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ก็มีการปรับเพิ่มขึ้นถึง 13.0% ซึ่งคาดว่าเป็นผลมาจากราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการผลิตและภาคการขนส่งวัสดุก่อสร้าง ทำให้เกิดการถ่ายโอนต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปเป็นราคาค่าก่อสร้างที่อยู่อาศัย ขณะที่องค์ประกอบหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบ ปรับเพิ่มขึ้นทุกรายการเช่นกัน จึงมีผลให้ดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน ไตรมาส 1 ปี 2566 มีการปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ในไตรมาสนี้หมวดแรงงานยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาจำแนกต้นทุนของงานก่อสร้างหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบ พบว่ามีการปรับเพิ่มขึ้นทุกรายการ โดยหมวดงานสถาปัตยกรรม ซึ่งมีสัดส่วน 65.6% ของหมวดงานออกแบบและงานระบบ มีอัตราค่าตอบแทนเพิ่มขึ้น 8.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนซึ่งถือว่าเป็นหมวดที่มีการปรับเพิ่มขึ้นสูงสุด และเพิ่มขึ้น 3.0% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2565 ขณะที่หมวดงานวิศวกรรมโครงสร้าง มีสัดส่วน 28.0% ของหมวดงานออกแบบและงานระบบ มีอัตราค่าตอบแทนเพิ่มขึ้น 6.0% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง -0.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2565