บรอมส์โกรฟ ชู ‘โกลด์ อวอร์ด’ 8 ด้านย้ำแกร่งมาตรฐานหลักสูตรอังกฤษ รับความต้องการตลาดโรงเรียนนานาชาติในไทย 8 หมื่นล.บาทขยายตัวแรง หลังผู้ปกครองเอเชียทุ่มลงทุนอนาคตลูกหลาน สวนเด็กเกิดใหม่หดตัว

ฮาเวิร์ด วู หัวหน้าฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ โรงเรียนนานาชาติ บรอมส์โกรฟ ประเทศไทย กล่าวว่า บรอมส์โกรฟเตรียมใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 100-200 ล้านบาท ภายใน 5-10 ปีนับจากนี้ ในการขยายโครงสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกและเทคโนโลยี รวมถึงบุคลากร เพื่อรองรับการเรียนการสอนในอนาคตที่สอดคล้องยุคปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ที่จะนำมาปรับใช้ร่วมกับหลักสูตรแต่ละชั้นเรียนให้เหมาะสม และเตรียมความพร้อมเพื่อมุ่งสู่ปีที่ 30 ของบรอมส์โกรฟในอีก 7 ปีข้างหน้านี้ ด้วย

สำหรับ การลงทุนดังกล่าวยังเป็นส่วนหนึ่งของแผนเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการแข่งขันในตลาดการศึกษานานาชาติในประเทศไทย ในฐานะ ศูนย์กลาง (Hub) โรงเรียนนานาชาติในภูมิภาคเอเชีย จากข้อมูลระบุประเทศไทยมีโรงเรียนนานาชาติเปิดให้บริการรวมกว่า 200 แห่งทั่วประเทศไทยซึ่งมีจำนวนมากที่สุดในภูมิภาคฯ นี้

นอกจากนี้ ในปี2567 ที่ผ่านมา บรอมส์โกรฟ ยังได้รับรางวัลเหรียญทอง (Gold Award) จากองค์กร EDUCATION DEVELOPMENT TRUST ประเทศอังกฤษ เพื่อตอกย้ำความโดดเด่นครอบคลุม 8 เกณฑ์สำคัญ คือ 1.มาตรฐานการบรรลุผลงานและความก้าวหน้า ตามที่นักเรียนสร้างสรรค์ขึ้น 2. มาตรฐานการพัฒนาตนเองของนักเรียน, 3.มาตรฐานการเรียนการสอน, 4. มาตรฐานหลักสูตร

ด้านที่ 5.มาตรฐานเชิงคุณและปริมาณด้านที่พักและทรัพยากรของโรงเรียน, 6. มาตรฐานการดูแลใส่ใจพร้อมให้การสนับสนุนของโรงเรียนที่มอบให้กับนักเรียน} 7. มาตรฐานการมีส่วนร่วมระหว่างโรงเรียนและสังคมผู้ปกครอง และ 8 มาตรฐานการเป็นผู้นำ, และการบริหารจัดการความโปร่งใส

ฮาเวิร์ด กล่าวว่า รางวัลโกลด์ วอร์ด ดังกล่าวยังเป็นสิ่งยืนยันความพร้อมของบรอมส์โกรฟในตลาดโรงเรียนนานาชาติประเทศไทย ที่ขยายการเติบโตและยังนำหน้าประเทศสิงคโปร์ไปแล้วในปัจจุบัน จาก 2 ปัจจัย สำคัญ คือ

1. การขยายตัวของตลาดการศึกษาโรงเรียนนานาชาติ ทั้งกลุ่มผู้เรียนในประเทศไทย และกลุ่มนักเรียนต่างชาติโดยประเทศใกล้เคียงและในแถบเอเชีย นิยมส่งบุตรหลานเข้ามาศึกษาในไทยเป็นจำนวนมากขึ้น ด้วยมีค่าใช้จ่ายทั้งค่าครองชีพ และ ค่าบำรุงการศึกษาต่อปี ในภาพรวมราคาที่ต่ำกว่า 30% เมื่อเทียบกับประเทศอังกฤษ ส่วนในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน มีค่าบำรุงการศึกษาโรงเรียนนานาชาติสูงกว่า 5 เท่าตัวเทียบกับในไทย

2.อัตราเด็กเกิดใหม่ที่มีจำนวนลดลงต่อเนื่อง โดยในกลุ่มครอบครัวที่มีความพร้อมจะให้ความสำคัญการลงทุนด้านการศึกษาในโรงเรียนนานาชาติ เพื่ออนาคตแก่บุตรหลานของตัวเองมากขึ้น

“บรอมส์โกรฟ เป็นโรงเรียนนาชาติมาตรฐานหลักสูตรอังกฤษที่รับไลเซนส์เพื่อดำเนินการในไทย ในกลุ่มที่สอง และในอนาคจะมีกลุ่มที่สามเข้ามาทำตลาดการศึกษาในไทยเพิ่มอีก”  ฮาเวิร์ด กล่าว 

ขณะที่ บรอมส์โกรฟ วางตำแหน่งเป็นโรงเรียนนานาชาติขนาดกลาง ด้วยปัจจุบันมีนักเรียนรวมทุกระดับชั้นจำนวน 530 คน ครูผู้สอนและครูผู้ช่วย รวม 80 คน เพื่อรองรับการดูแลนักเรียนได้อย่างทั่วถึงในสัดส่วนเหมาะสม โดยมีครูและครูผู้ช่วยต่อนักเรียน 3 คน และให้แต่ละชั้นเรียนมีจำนวนนักเรียนไม่เกิน 12- 24 คน แบ่งออกเป็น

• ชั้นเรียนระดับเออร์ลี เยียร์  (Early Year) นักเรียนอายุ 3-5 ขวบ
• ชั้นเรียน เยียร์1-2 (Year 1- Year2) นักเรียนอายุ 5-6 ปี
• ชั้นเรียนเยียร์ 3-6 (Year 3 – year 6) นักเรียนอายุ 7–10 ปี

“จากสัดส่วนที่วางไว้ยังทำให้ครูผู้สอนสามารถทำความรู้จักนักเรียนทุกคนได้อย่างใกล้ชิดและยังรู้ถึงทาเลนต์ของเด็กนักเรียนแต่ละคนเพื่อนำไปปรับให้คำแนะแนวการศึกษาที่เหมาะสมกับบุคลิกผู้เรียนได้อย่างเหมาะสม” ฮาเวิร์ด กล่าวพร้อมเสริมว่า “ด้วยฟาซิลิตี้ของบรอมส์โกรฟยังสามารถรองรับจำนวนนักเรียนได้มากถึง 600-700 คน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่โรงเรียนฯวางไว้”

นอกจากนี้ บรอมส์โกรฟ ยังมีจุดเด่นโรงเรียนนานาชาติหลักสูตรมาตรฐานอังกฤษที่รองรับนักเรียนประจำ (อาศัยหอพักในโรงเรียน) ปัจจุบันมีนักเรียนประจำราว 130 คน จากประเทศต่าง ๆ อาทิ ฮ่องกง, จีน, เมียนมา, ภูฏาณ, ยุโรปตะวันออก, รัสเซีย, เกาหลี, ญี่ปุ่น ฯลฯ

โดยปัจจุบัน บรอมส์โกรฟ มีกลุ่มนักเรียนประจำต่างชาติ สัดส่วน 12-15% และที่เหลือกว่า 75% เป็น กลุ่มนักเรียนไทย ละภาพรวมกลุ่มนักเรียนต่างชาติ 45% และ นักเรียนไทย 55% พร้อมวางอัตราค่าเล่าเรียนเริ่มต้น 4 แสนบาท ถึง 6 แสนบาทต่อปี

ทั้งนี้ ข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุตลาดการศึกษาโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยในปี 2567 คาดมีมูลค่ามากว่า 8 หมื่นล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 13% เทียบจากปี 2566 และมีจำนวนนักเรียนและโรงเรียนนานาชาติที่เพิ่มขึ้น รวมถึงอัตราค่าเล่าเรียนที่มีการปรับตัวสูงขึ้น