แคปปิตอล เอ เบอร์ฮาด ร่วมวงตลาดฟิน เทคฯ ไทย ส่ง ‘Big Pay’ เปิดพอร์ทลงทุน-ปล่อยสินเชื่อ  

แคปปิตอล เอ เบอร์ฮาด  ร่วมวงตลาดฟิน เทคฯ ไทย  ส่ง ‘Big Pay’ เปิดพอร์ทลงทุน-ปล่อยสินเชื่อ  
กลุ่มแคปปิตอล เอ เบอร์ฮาด (Capital A) จากมาเลเซีย บริษัทแม่สายการบินโลว์คอส แอร์เอเชีย ขยับใหญ่ในไทยส่งบริการทางการเงินดิจิทัล ‘Big Pay’ ลุยธุรกิจเทคโนโลยีการเงินเจาะความฝันคนรุ่นใหม่

โทนี เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Capital A และ MOVE Digital โฮลดิ้งด้านการลงทุน กลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ และแพลตฟอร์มบริการดิจิทัล ประเทศมาเลเซีย เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทฯ ได้ขยายการให้บริการเทคโนโลยีทางการเงิน (Finnance Technology) ผ่านแอปพลิเคชั่น ‘BigPay’ กระเป๋าเงินดิจิทัลใหม่ เพื่อรองรับความต้องการจัดการทางการเงินให้นักเดินทางและผู้ใช้งานชาวไทย

สำหรับบริการ BigPay มีจุดเด่นดังนี้

  • เครื่องมือทางการเงินครบวงจร เข้ามาช่วยให้การบริหารเงินของคนไทย ให้เป็นเรื่องง่าย
  • แอปพลิเคชันมาพร้อมกับบัตรเสมือน Visa (Visa Virtual card) ให้ใช้จ่ายได้ทันที
  • สามารถสั่งบัตรพลาสติก Visa Platinum Prepaid card ได้ต่างหาก ซึ่งจะแตกต่างไปจากกระเป๋าเงินดิจิทัลอื่นๆทั่วไป
  • ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดและยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน  BigPay ได้ง่าย
  • นำไปใช้จ่ายได้กว่า 130 ล้าน ร้านค้าทั่วโลก ทั้งร้านค้าออนไลน์และร้านค้าทั่วไป
  • ถอนเงินสดผ่านตู้ ATM ในต่างประเทศได้

นอกจากนี้ BigPay ยังมีตัวช่วยเก็บเงินอย่าง ‘Stash’ กระเป๋าเก็บเงินย่อย และ ‘Roundup’ ฟังก์ชันปัดเศษเงินทอนเพื่อเก็บเงินได้ทันที รวมถึง ‘Analytics’ ฟังก์ชันวิเคราะห์การใช้จ่าย ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานเก็บเงินอย่างชาญฉลาด พร้อมดูข้อมูลพฤติกรรมการใช้จ่ายได้ด้วย

“การขยายให้บริการ BigPay มาสู่ประเทศไทย ยังเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งในระบบอีโคซิสเต็มของเราให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น รวมถึงให้ผู้ใช้งานได้ใช้จ่ายพร้อมใช้บริการทางการเงิน ไปจนถึงได้รับประสบการณ์การเดินทางไร้รอยต่อในกลุ่มนักเดินทาง แม้จะมีคนถามเราว่าการเข้ามาทำฟินเทคตอนนี้ช้าไปหรือไม่ แต่เมื่อ 20 ปีก่อน แอร์เอเชียก็เข้าตลาดด้วยเครื่องบินเพียง 2 ลำ แต่ก็ยังสามารถเติบโตได้ ผมคิดว่าโอกาสการเติบโตของฟินเทคเรายังมีเช่นกัน” เฟอร์นานเดส กล่าว

ด้าน อภิฤดี ปรัชญาเศรษฐ ผู้จัดการ BigPay ประจำประเทศไทย กล่าวว่า นอกจากฟีเจอร์หลัก ๆ ที่กล่าวไปในข้างต้นแล้ว บริษัทฯ เตรียมหารือกับสถาบันการเงินรายใหญ่ในไทย เกี่ยวกับการรุกบริการการเงินในอนาคตอื่น ๆ ใน BigPay ได้แก่

  • การเปิดพอร์ตฯ ลงทุนให้แก่ผู้บริโภค
  • การโอนเงินระหว่างบัญชีในไทยและต่างประเทศ
  • การเปิดสินเชื่อ อาทิ สินเชื่อการท่องเที่ยว
  • การจ่ายเงินได้ทุกที่ผ่าน Alipay+
  • แลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ

“ระหว่างนี้อยู่ระหว่างหาโมเดลธุรกิจที่เหมาะสม บางอันอาจจะทำร่วมกับพาร์ตเนอร์ และลางส่วนอาจทำเอง ความชัดเจนน่าจะประมาณปี 2568“ อภิฤดี กล่าว

สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักของ BigPay จะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ เจนเนอเรชั่น Z ที่มีมากถึง 13 ล้านคน และมีจำนวน 3 ล้านคน ที่อยู่ในวัยเริ่มทำงาน ซึ่งพบว่ามีพฤติกรรมเชิงลึกด้านการเงิน ดังนี้

  • 65% ต้องการบริหารจัดการด้านการเงิน เพื่อให้ถึงเป้าหมายที่ฝันเอาไว้
  • 60% เห็นความสำคัญของการบริหารจัดการเงิน

โดยหลังจากเปิดตัวแอปพลิเคชั่น BigPay ในปีนี้แล้ว ได้วางเป้าหมายมีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ภายในปี 2568

TAGS: #โทนีเฟอร์นานเดส #CapitalA #MOVEDigital