ราคาพลังงานผันผวนรัฐอัดเงินกว่า 4.2 แสนล้าน ดูแล ทั้งตรึงดีเซล ก๊าซหุงต้ม ค่าไฟฟ้า หวังลดภาระประชาชน ชี้กฟผ.อ่วมโดดช่วยค่าไฟหนี้สะสม 1.5 แสนล้าน  

ศ.ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล เลขานุการรมว.พลังงาน กล่าวว่า สถานการณ์ด้านพลังงานยังคงมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในหลายๆ ประเทศ รวมทั้งส่งผลต่อราคาพลังงานในประเทศ โดยกระทรวงพลังงานยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ได้ประสานหน่วยงานภายในเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือปัญหาด้านพลังงานที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงพลังงานได้ดำเนินหลายมาตรการในการช่วยเหลือประชาชนทั้งในส่วนของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าไฟฟ้า เพื่อให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตราคาพลังงานดังกล่าวได้ ส่งผลให้ภาครัฐต้องรับภาระทางด้านงบประมาณ ทั้งในส่วนของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และภาระทางด้านการเงินของ กฟผ.

อย่างไรก็ตามในช่วง 4 ปีทีผ่านมา (ปี 2563-ม.ค. 2566) รัฐบาลได้ใช้งบประมาณในการดูแลราคาพลังงานรวมทั้งสิ้น 420,851 ล้าน บาท แยกเป็น1.มาตรการดูแลราคาน้ำมัน การตรึงราคาดีเซลคิดเป็นวงเงิน 106,518 ล้านบาท มีผู้ได้ประโยชน์ 12.34 ล้านราย  2.มาตรการดูแลค่าไฟฟ้า ตรึงค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ(เอฟที)  ลดค่า ไฟฟ้าครัวเรือน วงเงิน 260,035 ล้านบาท  มีผู้ได้ประโยชน์ 21.47 ล้านราย

3.มาตรการตรึงราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) 2 ป  จัดงบค่าซื้อก๊าซในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ วงเงินรวม 41,081  ล้านบาท  และ 4.มาตรการตรึงราคาก๊าซNGV รถทั่วไปและ รถสาธารณะ วงเงิน 13,217  ล้านบาท 

สำหรับแหล่งเงินที่นำมาใช้ในการดูแลราคาพลังงาน มาจากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 1.46 แสนล้านบาท ซึ่งนำไปใช้ในการตรึงราคาดีเซล  ส่วนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเข้ามาช่วยดูแลค่าไฟฟ้า วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท และ บริษัทปตท. จำกัด(มหาชน) วงเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท ดูแลราคาNGV ให้แท็กซี่ รถโดยสารสาธารณะ และรถยนต์ทั่วไป