แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ฯ วางกลยุทธ์ชิงตลาดนมผงเด็กระดับพรีเมี่ยม หนุนเสริมการเติบโตเด็กไทยอย่างมีคุณภาพ หลังพบ เด็กไทยเกิดใหม่ลดลง 8 % ต่อเนื่องช่วง 10 ปี
เจนปกรณ์ วีรชยาภรณ์พงศ์ รองประธานฝ่ายขายและการตลาด ธุรกิจเพื่อการดูแลสุขภาพของผู้บริโภค บริษัท แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย นมแพะ DG กล่าวว่า ภาพรวมตลาดนมผงปี 2566มูลค่ารวมอยู่ที่ 12,611 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนตลาดเป็นนมผงพรีเมี่ยมอยู่ที่ประมาณ 50%
ทั้งนี้ จากข้อมูลสถิติประชากร กรมการปกครอง พบว่าจำนวนอัตราการเกิดของประเทศไทย 10ปีย้อนหลัง มีปริมาณลดลงอย่างต่อเนื่องประมาณ 5-8% โดยปี 2566 มีอัตราการเกิดอยู่ที่ 517,934 คน รัฐบาลจึงส่งเสริมการเพิ่มอัตราการเกิด และสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะนมแม่ดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม พบว่าปัจจุบันมีคุณแม่จำนวนมากที่ไม่สามารถให้นมเองได้ ไม่มีน้ำนม หรือน้ำนมไม่พอ จากหลายปัจจัย ทั้งภาวะร่างกาย ความเครียด และข้อจำกัดการใช้ชีวิต ดังนั้นคุณแม่จึงพยายามหานมเสริมที่ใกล้เคียงนมแม่มากที่สุด โดยหาข้อมูลเปรียบเทียบทั้งทางออนไลน์ คำแนะนำจากแพทย์ รวมทั้งการแชร์ข้อมูลกันในกลุ่มคอมมูนิตี้คุณแม่
แนวโน้มดังกล่าว บริษัทฯ ได้วิจัยพร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ยกระดับนมผงเด็กตลาดพรีเมี่ยม โดยย้ำจุดแข็ง นมแพะที่มีระบบสร้างน้ำนมอะโพไครน์เช่นเดียวกับนมแม่ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันพร้อมพัฒนาสูตรใหม่นมแพะ DG มีนิวคลีโอไทด์ เพิ่ม DHA และ Omega369 2 เท่า เพื่อส่งเสริมคุณภาพการเติบโตขอฃเด็กไท
โดยบริษัทยังวาง 4 กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจขับเคลื่อน นมแพะ DG ในการปรับสูตร-เปลี่ยนโฉมใหม่ ดังนี้
1. ตอกย้ำความมั่นใจ ด้วยจุดแข็งผลิตภัณฑ์ (Strengthen Product Value) และกระบวนการพัฒนาสินค้าและคุณภาพการผลิตระดับสากล นำเข้าจากนิวซีแลนด์ ที่แตกต่างจากนมวัว
2. ยกระดับคุณภาพสินค้าและแบรนด์ระดับพรีเมี่ยม “ปรับสูตร-เปลี่ยนโฉมใหม่” (Enhance the premium quality products and brand)
ด้วยการปรับสูตรเพิ่มสารอาหาร DHA และ โอเมก้า 2เท่า ชูสารอาหาร “นิวคลีโอไทด์” เสริมสร้างภูมิคุ้มกันแข็งแรง พร้อมปรับภาพลักษณ์แบรนด์ ให้ทันสมัยเข้าถึงคุณแม่ในยุคปัจจุบัน
โดยปัจจุบัน นมแพะ DG พัฒนา2สูตรเฉพาะสำหรับทารกและเด็กเล็ก ได้แก่ สูตรมาตรฐาน และ สูตรแอดวานซ์ โกลด์ ที่เพิ่มDHA เพื่อให้ครอบคลุมเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น
3.เพิ่มการรับรู้แบรนด์ และเข้าถึงข้อมูลสินค้าให้มากขึ้น(Expand the depth of product knowledge and brand awareness) ขยายช่องทางการสื่อสารทุกช่องทาง ทั้งช่องทางออนไลน์และการทำตลาดแบบ Localized Marketing หรือการตลาดท้องถิ่นแบบบูรณาการทุกช่องทาง
พร้อมเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งทั่วประเทศ อาทิ โรงพยาบาล คลินิคร้านขายยา ไฮเปอร์ มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าแม่และเด็ก ช่องอีคอมเมิร์ซรวมทั้งช่อนออนไลน์ต่างๆ
4. ขยายสายผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย (Product Line Extension) การบริโภคนมแพะ จากตลาดเครื่องดื่มสำหรับแม่และเด็ก เข้าสู่ตลาดผู้สูงอายุ ออกสินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์ ‘ไวต้าชัวร์’ เครื่องดื่มนมแพะเพื่อสุขภาพสำหรับผู้ใหญ่วัยแอคทีฟ ชูจุดแข็งมี 2C กรดไขมันดีคาพริกและคาไพริก ช่วยลดโอกาสการสะสมคอเลสเตอรอล มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและบุคคลทั่วไป
เจนปกรณ์ กล่าวว่าสำหรับทิศทางการเติบโตในธุรกิจนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งให้ความสำคัญด้าน Core Benefits คุณค่าหลักในตัวผลิตภัณฑ์ด้วยคุณภาพของนมแพะที่แตกต่างจากนมวัว และคุณค่าทางด้านสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพคนไทย สำหรับเด็กและผู้สูงอายุ โดยได้ขยาย Product Portfolio หรือขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ และขยายฐาน Consumer Segment หรือการแบ่งกลุ่มผู้บริโภค พร้อมทำตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังขยายการจัดจำหน่ายและทำตลาดไปยังต่างประเทศ อาทิ พม่า ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม และมีแผนที่จะขยายไปยังประเทศอื่นๆ อีกในอนาคต ซึ่งมั่นใจว่าจะทำให้บริษัทฯ เติบโตได้ในอัตรา 2 หลัด หรือมียอดขายแตะ1,000 ล้านบาท ในอีก 5 ปีข้างหน้า