‘พิมพ์ภัทรา’กำชับกรมโรงงานฯต้องจบภายใน 30 วัน หวั่นตัวถ่วงการลงทุนสวนทางนโยบายรัฐบาล   สั่งหาแนวทางแก้ไขเสนอใช้รูปแบบ One Stop Service 

แหล่งข่าวจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับการร้องเรียนจากสมาชิกจากหลายอุตสาหกรรมได้รับความเดือดร้อน จากปัญหาความล่าช้าในการขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง.4) ทั้งในส่วนของประกอบกิจการใหม่ และการขออนุญาตขยายโรงงาน

ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า การขอใบอนุญาตทั้ง 2 ประเภทของกรมโรงงานฯ ค้างอยู่ไม่ต่ำกว่า 200 ราย สร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนอย่างมาก ในขณะที่ไทยต้องการเม็ดเงินการลงทุน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่กลับประสบปัญหาเรื่องการขอใบอนุญาตฯ

อย่างไรก็ตามต้องการให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) แก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพราะที่ผ่านมาปัญหาการขอใบอนุญาตร.ง.4 เป็นประเด็นร้อนที่นักลงทุนจากทั่วโลกที่เข้ามาลงทุนในไทยร้องเรียนอย่างหนักว่า ขั้นตอนยุ่งยาก มีความล่าช้าอย่างมาก

ก่อนหน้านี้ปัญหาใบร.ง.4 เคยได้รับการแก้ไขแล้ว แต่กลับมามีปัญหาอีกครั้งตั้งแต่ปีที่แล้ว และเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่รัฐบาลได้ออกประกาศเรื่องอำนวยความสะดวกนักลงทุน แต่ใบร.ง.4 กลับเป็นตัวถ่วงอย่างหนัก อยากให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม เร่งแก้ปัญหาโดยด่วน บางรายเอกสารครบถ้วน รอแค่เซ็นใบอนุญาตจากผู้บริหาร รอมาเป็นปี แต่ทุกอย่างติดขัดไปหมด ไม่รู้ว่า ติดปัญหาอะไร อยากให้เร่งแก้ ไม่อยากให้ถูกมองเรื่องต้องจ่ายใต้โต๊ะหรือไม่ ถึงจะได้ใบอนุญาตเร็วขึ้น เพราะตอนนี้ยังมองในแง่ดีว่า ไม่น่าจะเป็นเหตุผลนั้น แต่ไม่รู้ว่า ติดอะไร ถ้าต่อไปยังล่าช้าอีก คงต้องยอมรับว่า อดไม่ได้ที่จะต้องมองแบบนั้น       

ด้านน.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวได้รับการร้องเรียนมาเช่นกัน ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด โดยเรียกประชุมไปเมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา สั่งการให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม รวบรวมข้อมูลการขออนุญาตที่ค้างอยู่ในระบบทั้งหมดว่าอยู่ในระบบนานเท่าไร สาเหตุของการตกค้าง และเรื่องดังกล่าวอยู่ที่ใด พร้อมทั้งกำหนดแนวทางในการจัดการคำขออนุญาต มาแจ้งตนในการประชุมวันที่ 26 มี.ค. ที่จะถึงนี้ เนื่องจากขัดแย้งกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการอำนวยความสะดวกในการลงทุนให้กับนักลงทุนทุกรายที่ทำทุกอย่างถูกต้องแล้ว 

ทั้งนี้จากการตรวจสอบ พบว่า มีใบรง.4ตกค้างอยู่กว่าร้อยเรื่อง ไม่สามารถออกให้แก่ภาคเอกชน ซึ่งอาจเกิดจากเอกสารประกอบการพิจารณาไม่ครบถ้วน การรอข้อมูลจากหน่วยงานภายนอก เช่น การขออนุญาตโรงไฟฟ้า หรือโรงแปรรูปไม้ หรืออาจเกิดจากการทำงานที่เป็นการตั้งรับมากกว่าเชิงรุกของเจ้าหน้าที่  ในเบื้องต้นต้องเร่งเคลียร์ใบอนุญาตที่ค้างในระบบของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ถ้าผู้ประกอบการลงทุนรายใด เอกสารไม่ครบ ต้องแจ้งกลับว่าเกิดปัญหาอะไรติดขัดอะไร  และหากรายใดเอกสารถูกต้องครบแล้ว ก็ต้องเร่งออกใบอนุญาตออกไป

“เรื่องนี้ตนยอมไม่ได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ทั้งการพิจารณาผ่านหลายขั้นตอน ผ่านหลายฝ่าย หรือผ่านหลายโต๊ะ หลายคน ทำให้ขาดประสิทธิภาพ  คงต้องเร่งเคลียร์ ออกใบอนุญาตให้แก่นักลงทุนและผู้ประกอบการโดยเร็ว รวมทั้งต้องปรับปรุงกระบวนการพิจารณาออกใบอนุญาตให้เป็นแบบOne Stop Service  เพื่อลดขั้นตอนการออกใบอนุญาต โดยให้ทุกคำขออยู่ภายในกรอบเวลาของคู่มือการให้บริการประชาชน”