ความสัมพันธ์การค้า ไทย’ VS ‘ฟิลิปปินส์’ เปิดเคล็ดรู้จักนิสัย ‘ปินอย’ก่อนทำตลาด

ความสัมพันธ์การค้า  ไทย’ VS ‘ฟิลิปปินส์’  เปิดเคล็ดรู้จักนิสัย ‘ปินอย’ก่อนทำตลาด
สถิติการค้าไทย-ฟิลิปปินส์ ในรอบปี2566 มีมูลค่ากว่า หมื่นล.ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยไทยได้เปรียบดุลการค้าจาก 10 อันดับสินค้าสำคัญในการส่งออก โดย ปินส์ยังเป็นตลาดน่าสนใจของไทยต่อการตีตลาดอย่างต่อเนื่อง

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เผยข้อมูลระบุว่า การค้าระหว่างไทย – ฟิลิปปินส์ ในปี2566 (เดือนมกราคม-พฤศจิกายน)ที่ผ่านมา อยู่ที่ 10,125.23 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 3.58% เทียบช่วงเดียวกันของปี 2565 มีมูลค่า 10,501.10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนราว 1.91% ของการค้าไทยไปทั่วโลก โดยไทยได้เปรียบดุลการค้าฟิลิปปินส์ เป็นมูลค่า 4,407.00 ล้านเหรียญสหรัฐฯ  ซึ่งไทยยังเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญในการส่งออกอันดับ 8 และ คู่ค้าการนำเข้าอันดับ 6 ของของฟิลิปปินส์ในตลาดโลก


ขณะที่ศูนย์สารสนเทศการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ระบุ 10 อันดับสินค้าส่งออกสำคัญไปยังประเทศฟิลิปปินส์ ดังนี้

  1. รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอย
  2. แผลวงจรไฟฟ้า
  3. น้ำตาลทรายแดง
  4. น้ำมันสำเร็จรูป
  5. เครื่องสำอางสบู่และผลิตภัณฑ์รักษาผิว
  6. เม็ดพลาสติก
  7. เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ
  8. ทองแดงและของทำด้ววยทองแดง
  9. ผลิตภัณฑ์พลาสติก
  10. เคมีภัณฑ์

โดยมี 10 สินค้านำเข้าสำคัญจากประเทศฟิลิปปินส์ ดังนี้

  1. แผงวงจรไฟฟ้า
  2. สินแร่โลหะอื่นๆ
  3. เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ
  4. ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์
  5. เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ
  6. น้ำมันดิบ
  7. ไดโอท ทรานซิสเตอร์และอุปกรณ์กึ่งตัวนำ
  8. ผลิตภัณฑ์ยาสูบ
  9. เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ
  10. เลนส์ แว่นตาและส่วนประกอบ

อย่างไรก็ตาม ตลาดฟิลิปปินส์ยังมีความน่าสนใจ จากกำลังซื้อของประชากรประเทศอยู่ที่ราว 113 ล้านคน และส่วนใหฐ่มีอายุน้อย ทำให้ฟิลิปปินส์ ยังเป็ยตลาดการค้าเสรีอาเซียน(FTA) ระหว่างประเทศไทยทีน่าสนใจ

 

พร้อมระบุถึงกลุ่มเทรนด์สินค้ามาแรง และเคล็ดลับเจาะตลาดฟิลิปปินส์ เป็นหนึ่งในประเทศที่เศรษฐกิจมีพลวัตมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกด้วยการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่โดดเด่น และการขยายตัวของเมืองและชนชั้นกลาง

 

ขณะที่ในปัจจุบันการจําหน่ายสินค้าที่เหมาะสมมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นเมื่อตลาดเติบโตขึ้น ดังนั้น

ผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าสู่ตลาดฟิลิปปินส์ ยังต้องติดตามแนวโน้มของตลาดและทําความเข้าใจผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ต้องการ รวมถึงพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการฟิลิปปินส์สามารถนําไปออกแบบ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถตอบโจทย์ตรงกับความต้องการ รวมทั้งสามารถใช้ในการกําหนด กลยุทธ์ในการทําการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

 

โดย แบ่งออกเป็นรายการสินค้ายอดนิยมและเป็นที่ต้องการในฟิลิปปินส์ ดังนี้

 

1.แฟชั่นและเครื่องประดับ เป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในฟิลิปปินส์ โดยชาวฟิลิปปินส์ขึ้นชื่อในเรื่องความชื่นชอบแฟชั่นและสไตล์เป็นอย่างมาก โดยปัจจุบันชุดเดรสของผู้หญิงเป็นสินค้าที่มีความต้องการสูงที่สุดในประเทศ ทั้งนี้ ชาวฟิลิปปินส์มีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นและเครื่องประดับมากขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย สำหรับสินค้ายอดนิยมบางส่วนในหมวดหมู่แฟชั่นและเครื่องประดับ อาทิ

 

สำหรับสินค้าเครื่องประดับที่เป็นที่นิยมที่สุดในฟิลิปปินส์ ได้แก่ กิ๊บติดผม ผ้าคาดผม และยางรัดผมทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่ายอดขายเครื่องแต่งกายสำหรับสตรีในตลาดฟิลิปปินส์จะมีปริมาณอยู่ที่ประมาณ 104.60 ล้านชิ้น ภายในปี 2570 ด้วยอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) ที่ 3.75%

 

2. ผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขภาพ

 

ชาวฟิลิปปินส์ขึ้นชื่อในเรื่องความสนใจในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและการแต่งหน้า โดยมีผลิตภัณฑ์มากมายที่กำลังมาแรงมากมายในหมวดหมู่ดังกล่าว สำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเป็นสิ่งที่ชาวฟิลิปปินส์หลายคนต้องมี เช่น โทนเนอร์ มอยเจอร์ไรเซอร์และเซรั่ม เป็นต้น

 

รวมถึงสินค้าเครื่องสำอาง ก็เป็นที่ยอดนิยมเช่นกัน โดยผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่มักมองหาสินค้าเครื่องสำอางคุณภาพสูงที่มีราคาไม่แพง

 

3. สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์

วิดีโอเกมนับเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมในฟิลิปปินส์ โดยชาวฟิลิปปินส์มีพฤติกรรมชื่นชอบการเล่นวิดีโอเกมโดยเฉพาะบนอุปกรณ์เคลื่อนที่และคอนโซลเกม ทําให้สินค้าดังกล่าวมียอดขายที่ดีในช่วงที่ผ่านมา

 

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่ารายได้ภายในตลาดเกมมือถือของฟิลิปปินส์จะมีมูลค่าสูงถึง 1.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ในปี 2566 โดยมีอัตราเติบโต CAGR อยู่ ที่ 7.85% นอกจากนี้ สินค้าอุปกรณ์โทรศัพท์ Android ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่ มียอดจําหน่ายดี

 

สําหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด ในฟิลิปปินส์ ได้แก่ ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ และเครื่องซักผ้า โดยคาดว่ายอดขายสําหรับหมวดหมู่ดังกล่าว จะมีมูลค่าประมาณ 8.60 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2566 และมีอัตราเติบโต CAGR อยู่ที่ 3.83%

 

4. อาหารและเครื่องดื่ม ชาวฟิลิปปินส์ ขึ้ นชื่อในเรื่องการรักในการรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม โดยกาแฟเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ต้องการในฟิลิปปินส์และสามารถ พบร้านกาแฟได้ทั่วประเทศ โดยชาวฟิลิปปินส์ประมาณ 80% ดื่มกาแฟประมาณ 2.5 ถ้วยต่อวัน และ93% ของครัวเรือนชาวฟิลิปปินส์ซื้อกาแฟทุกสัปดาห์

 

สําหรับสินค้ายอดนิยมอื่นๆ ในหมวดหมู่ดังกล่าว ได้แก่ ของว่าง น้ําอัดลม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งนี้

จากข้อมูลของ Statista ระบุว่าในปี 2566 ราว 2.1% ของรายได้รวมของตลาดอาหารจะมาจากการขายออนไลน์

ภายในปี 2566 โดยประเภทสินค้าที่มีส่วนแบ่งมากที่สุด คือ ขนมปังและซีเรียล ซึ่งจะมีมูลค่า 41.11 พันล้าน

ดอลลาร์สหรัฐฯ

 

นอกจากนี้ คาดการณ์ว่ารายได้โดยรวมของอุตสาหกรรมอาหารในปี 2566 จะอยู่ที่ประมาณ 134.60 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีอัตราเติบโต CAGR อยู่ที่ 7.07% ในขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า มูลค่าตลาดเครื่องดื่มจะสูงถึง 1.017 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2570 โดยมีอัตรา CAGR อยู่ที่ 14.96%

 

5. Health and Wellness การแพร่ ระบาดของโควิ ด-19 ที่ ผ่านมา ทําให้ชาวฟิลิปปินส์ตระหนักถึงความสําคัญของสุขภาพของตนเองมากขึ้น โดยอุปกรณ์กีฬาและฟิตเนสกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โดยในช่วงการแพร่ระบาดฯ ชาวฟิลิปปินส์จํานวนมากไม่สามารถเดินทางไปยิมได้ ทําให้สินค้าอุปกรณ์กีฬาและฟิตเนสมียอดจําหน่ายเพิ่มขึ้ นอย่างมาก เช่น เสื่อโยคะ Resistance bands และ ดัมเบล

 

ทั้งนี้คาดการณ์ว่าในปี 2566 รายได้ของอุตสาหกรรมอุปกรณ์กีฬาอยู่ที่ประมาณ 1.726 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

โดยมีอัตราเติบโต CAGR อยู่ที่ 6.79% นอกจากนี้ สินค้าเพื่อสุขภาพที่เป็นที่นิยมอีก ได้แก่ วิตามินเสริม และผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล เช่น มอยเจอร์ไรเซอร์ และสบู่อาบน้ํา จากการสํารวจชาวฟิลิปปินส์เมื่อต้นปี 2566 ผู้ตอบแบบสํารวจ 75.82% ระบุว่ามีการซื้อวิตามินรับประทาน และ 63.24% ซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลผิวมาใช้

 

ขณะที่ กลยุทธ์และเคล็ดลับการทําการตลาดและจําหน่ายสินค้าให้กับผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์อย่างมีประสิทธิภาพการตลาดนับเป็นส่วนสําคัญเป็นอย่างมากที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการประสบความสําเร็จในการเข้าสู่ตลาดและจําหน่ายสินค้า โดยการกําหนดกลยุทธ์และเคล็ดลับต่างๆ อย่างถูกต้องและเหมาะสมในแต่ละตลาดเพื่อใช้โปรโมทสินค้าจะช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

สําหรับกลยุทธ์และเคล็ดลับ การทําการตลาดและการขายสินค้าในฟิลิปปินส์มี ดังนี้

 

1. รู้จักตลาดเป้าหมายและความต้องการ การทําความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมความชื่นชอบและ ความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายนับเป็นสิ่งจําเป็นอันดับต้นๆ ที่ผู้ประกอบต้องคํานึงถึง โดยผู้ประกอบการสามารถทําการวิจัยตลาด และวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเข้าถึงข้อมูลกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและสิ่งที่ลูกค้า ต้องการในตัวสินค้า ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถวางกลยุทธ์ หรือ ปรับเปลี่ยนความพยายามทางการตลาดเพื่อดึงดูดผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น

 

ยกตัวอย่างเช่น ชาวฟิลิปปินส์มักมีพฤติกรรมชื่นชอบการทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีราคาไม่แพง ชอบสินค้าที่ มีความสะดวก ยั่ งยืน และดีต่อสุขภาพหรือ ผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์มักชื่นชอบการช้อปปิ้งที่ให้ข้อเสนอต่างๆ ทั้งนี้ จากการสํารวจพบว่าผู้ซื้อชาวฟิลิปปินส์ 3 ใน 10 ราย จะซื้อสินค้าเนื่องจากมีโปรโมชั่น โดยข้อเสนอที่ผู้ประกอบการสามารถนําไปพิจารณาใช้และ มักได้ผลตอบรับดีในการทําตลาดในฟิลิปปินส์ อาทิ ซื้อ 1 แถม 1 การจัดส่งฟรี หรือการให้ส่วนลดประเภทต่างๆ

 

2. การใช้สื่อออนไลน์หรือโซเซียลมีเดียทําการตลาด ฟิลิปปินส์มีจํานวนประชากรผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกคิดเป็นประมาณ 72%

 

นอกจากนี้ โซเชียลมีเดียยังเป็นหนึ่งในช่องทางที่ชาวฟิลิปปินส์ใช้เวลามากในแต่ละวันคิดเป็นประมาณ 4 ชั่วโมงหรือมากกว่าต่อวัน โดยแพลตฟอร์มโซเซียลมีเดียที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ Facebook, TikTok และTwitter

 

ดังนั้น การสร้างแผนการตลาดที่เน้นไปที่การใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มโซเซียลมีเดียดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการในการโปรโมทสินค้าเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในฟิลิปปินส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนอกจากช่องทางโซเซียลมีเดียแล้ว ช่องทางการตลาดอื่นๆ ที่ผู้ประกอบการสามารถนําใช้ ได้ เช่น การตลาดผ่านอีเมล์ การโฆษณา และการตลาดเนื้อหา เป็นต้น

 

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ ควรเลือกช่องทางที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสําหรับกลุ่มเป้าหมาย และงบประมาณเป็นสําคัญ นอกจากนี้ ชาวฟิลิปปินส์ยังเป็นผู้บริโภคที่ชื่นชอบการเข้าชมวิดีโอออนไลน์อีกด้วย โดยเฉพาะการชม Vlogs

ทําให้ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีผู้ชม Vlogs มากที่สุดในโลก รวมทั้งชาวฟิลิปปินส์ยังชอบดูวิดีโอบนเว็บไซต์

สตรีมมิ่ ง Youtube และ Netflix ซึ่ งช่องทางดังกล่าวจะสามารถสร้างโอกาสทางการตลาดได้เป็นอย่างดี

สําหรับผู้ประกอบการที่ต้องการนําเสนอผลิตภัณฑ์ในลักษณะที่น่าดึงดูดยิ่งขึ้น

 

3 การร่วมมือกับ Influencers การร่วมมือกั บ ผู้มีอิทธิพล (Influencers) ที่มีผู้ติดตามหรือผู้ชมจํานวนมากบนโซเชียลมีเดียเป็นวิธีที่ได้ผลเป็นอย่างมากในการโปรโมทสินค้าของผู้ประกอบการในฟิลิปปินส์

 

สําหรับวิธีการเลือกผู้ มีอิ ทธิพลควรพิจารณาให้ เหมาะสมสอดคล้องกับแบรนด์ และกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจในการนําเสนอสินค้า ทั้งนี้ ชาวฟิลิปปินส์ได้ชื่อว่าเป็นผู้ ที่นิยมยกย่องคนดังและผู้ มีอิทธิพลโดยเฉพาะในท้องถิ่ น โดยจากสํารวจระบว่าประชากรออนไลน์ชาวฟิลิปปินส์ 51.4% ติดตามบุคคลที่ ได้รับความนิ ยม ซึ่งเกินค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 22.6%

 

ดังนั้น ผู้ประกอบการหรือแบรนด์สินค้าต่างๆ จึงมักนิยมทําการตลาดผ่าน Influencers ในประเทศฟิลิปปินส์

เนื่องจากสามารถเข้าถึงผู้ชมในวงกว้าง และชาวฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะไว้วางใจแบรนด์ต่างๆ จากการรับฟังคําแนะนําจากบุคคลที่มีอิทธิพล สําหรับช่องทางสื่อสารที่ Influencers มักนิยมใช้ ได้แก่ TikTok และ

Instagram

 

4. การใช้ Targeted Ad การโฆษณาที่ตรงเป้าหมาย (Targeted Ad) เป็นรูปแบบหนึ่งของการโฆษณาออนไลน์ที่ใช้ข้อมูล เพื่อแสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้องไปยังผู้ชมเฉพาะเจาะจงตามความสนใจ พฤติกรรม และข้อมูลประชากร

 

ทั้งนี้การใช้ Targeted Ad ช่วยให้ผู้ประกอบการมั่นใจได้ว่าสินค้าจะถูกแสดงต่อกลุ่มคนหรือกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการซื้อ สําหรับตัวอย่างของแพลตฟอร์มที่ผู้ประกอบการสามารถใช้ในการแสดงโฆษณาแบบ Targeted Ad ในฟิลิปปินส์ เช่น โฆษณาบน Google โฆษณาบน Facebook และโฆษณาบน Instagram เป็นต้น

 

ทั้งนี้ การใช้ Targeted Ad ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้ผลตอบรับที่ดีในฟิลิปปินส์ เนื่องจากชาวฟิลิปปินส์จํานวนมากใช้เวลาบนโลกออนไลน์ในแต่ละวัน อย่างไรก็ตาม การใช้ Targeted Ad ผู้ประกอบการควรพิจารณาเลือกใช้ช่องทางที่รับความนิยมมากที่สุดเพื่อแสดงโฆษณาที่ตรงเป้าหมายได้ รวมทั้งควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อความโฆษณาและภาพสินค้าสอดคล้องและตรงกับกับความชื่นชอบของกลุ่มเป้าหมาย

 

TAGS: #การค้าระหว่างประเทศ #ฟิลิปปินส์