อุดร พลาซ่า ยักษ์ค้าปลีกอุดรฯ ‘ยูดีทาวน์’ ต่อยอดธุรกิจลงทุน 200 ล้านบาท พัฒนาอสังหาฯโรงแรม รับการท่องเที่ยวความเชื่อ-สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภาคอีสานขยายตัว หนุนเศรษฐกิจท้องถิ่นโต
ธนกร วีรชาติยานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อุดรพลาซ่า จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้า ยูดีทาวน์ (UD Town) เปิดเผยว่า ปัจจุบันยูดีทาวน์ ให้บริการถึงปัจจุบันเป็นเวลา 16 ปี โดยวางตำแหน่งเป็นไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งในรูปแบบอาคารเปิดโล่ง (Open Air)
สำหรับแผนธุรกิจในระยะ 5 ปีนับจากนี้ บริษัทเตรียมใช้งบลงทุนราว 200ล้านบาท พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์โรงแรม ระดับ3 ดาว ในรูปแบบอาคารโลว์ไรซ์ ขนาด7 ชั้น จำนวน 2 อาคาร รวมให้บริหารห้องพักไม่เกิน 140 ยูนิต บนเนื้อที่รวม 8,000 ตารางเมตร โดยจะนำที่ดินของศูนย์ฯยูดีทาวน์ราว 1-2 ไร่ จากทั้งหมด 32 ไร่ (ยังไม่ระบุโซน)
โดยโครงการฯ ดังกล่าว เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายนักนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างชาติ ที่เดินทางมายังจังหวัดอุดรฯ เพื่อสักการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ หรือ สายมูเตลู ทีมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นและมีสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 50% ที่เดินทางมายังจังหวัด โดยมีวัตถุประสงค์ดังกล่าว
ทั้งนี้ ได้วางตำแหน่งการให้บริการโรงแรมในระดับ 3 ดาว หรือกลุ่มระดับกลางมีอัตราค่าบนริการต่อคืนราว 1,500-2,000 บาท รองรับกลุ่มลูกค้าทั่วไปทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมไปถึงกลุ่มราชการที่สามารถสำรองจ่ายค้าที่พักได้
“จากก่อนหน้า 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดโรงแรมโมโค เจาะกลุ่มกลาง-บน วาวอัตราค่าห้องพักราว 2,800-8,500 บาท/คืน มีจำนวน 68 ยูนิต และมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 60% ขึ้นไป ซึ่งได้อานิสงค์การท่องเที่ยวสายมูฯ ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง” ธนกร กล่าว
โดยในปี 2566 นี้ คาดว่าจะมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยที่ 70-80% จาก2 ปัจจัย คือ การท่องเที่ยวในประเทศฟื้นตัว และรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว ที่อาจเปิดให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ที่จะช่วยเสริมศักยภาพการท่องเที่ยวของจังหวัดอุดรฯ ได้มากขึ้น และส่งผลดีต่อศูนย์การค้ายูดีทาวน์ ตามไปด้วย
ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าโรงแรมของยูดีทาวน์ แบ่งสัดส่วน 80% เป็นคนไทย และ 20% เป็นชาวต่างชาติ อาทิ สปป.ลาว สหรัฐอเมริกา ยุโรป
ทั้งนี้ ในปี 2562 จังหวัดอุดรฯ มีนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 4 ล้านคนต่อปี และจากการแพร่ระบาดโควิดราวปี 2563-2565 ได้ส่งกระทบอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในจังหวัดพอสมควร และเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายในปี2566 จากสัญญาณการฟื้นตัวในภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดอุดรฯ โดยประเมินว่าจะมีนักท่องเที่ยวกลับไปอยู่ที่ 4 ล้านคนต่อปี
“ช่วงที่ผ่านมามีจำนวนเที่ยวบินเข้ามายังอุดรฯเฉลี่ย 58 เที่ยวต่อวัน จากปี 2563-2564 ลดลงเหลือ 30-40 เที่ยว/วัน เป็นสัญญาณบวกต่อการวางกลยุทธ์การทำตลาดของยูดีทาวน์ เพื่อรองรับการเติบโตเศรษฐกิจจังหวัด” ธนกร กล่าว
ด้วย จังหวัดอุดรฯ มีข้อได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์ โดยเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวจากสปป.ลาว ใช้เป็นจุดแวะพักก่อนเดินทางต่อไปยังกรุงเทพฯ และเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังจังหวัดใกล้เคียงได้ง่าย เช่น หนองคาย นครพนม เป็นต้น
นอกจากนี้ จังหวัดอุดรฯ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติสำคัญหลายแห่ง รวมไปถึงสถานที่สักการะตามความเชื่อหรือ มูเตลู อาทิ ถ้ำนาคา คำชะโนด เป็นต้น ซึ่งกระตุ้นให้ภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดและภาคอีสานท่ามกลางปัจจัยลบ จากสถานการร์โควิด และส่งผลดีต่อธุรกิจศูนย์การค้า โรงแรม และศูนย์ประชุมของกลุ่มยูดีทาวน์ ด้วยเช่นกัน
พัฒนาอสังหาฯปล่อยเช่า รับราคาที่ดินพุ่ง
ด้าน ภาสกร วีรชาติยานุกูล" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาทิพย์ 456 จำกัด ดำเนินธุรกิจโรงแรมโมโค และศูนย์ประชุมนานาชาติมลฑาทิพย์ ของกลุ่มยูดีทาวน์ เปิดเผยว่า ยูดีทาวน์มีที่ดินสะสม (แลนด์ แบงก์) อีก 2 แปลง บริเวณกลางเมืองอุดรธานี ในทำเลใกล้กับศูนย์การค้ายูดีทาวน์จำนวน 4 ไร่ และเป็นที่ดิน บริเวณถัดออกไปอีกประมาณ 4 ไร่
สำหรับที่ดิน บริเวณใกล้ศูนย์ฯยูดีทาวน์ จะนำมาสร้างเป็นอาคารที่พักอาศัย (เรสซิเดนซ์) พร้อมปล่อยให้เช่าระยะยาว รองรับกลุ่มเป้าหมายระดับบน เนื่องจากราคาที่ดินกลางเมืองอุดรธานีปรับตัวสูงขึ้น โดยปัจจุบันอยู่ที่ 258,000 บาทต่อตารางวา จากปี 2546 อยู่ที่กว่า 40,000 บาทต่อตารางวา
ดังนั้น บริษัทต้องพัฒนาโครงการฯ ให้คุ้มค่าแก่การลงทุนซึ่งการพัฒนาเรสซิเดนซ์ ยังอยู่ในแผนธุรกิจ 5 ปี ของบริษัท ซึ่งโครงการนฯนี้จะดำเนินการต่อเนื่องหลังจากสร้างโรงแรมแห่งใหม่ แล้วเสร็จ
ส่วนดินบริเวณถัดไป ในทำเลห่างจากศูนย์ฯ ยูดีทาวน์ บริษัทจะนำมาพัฒนาโครงการอสังหาฯ เพื่อการขาย อาทิ บ้านเดี่ยว ซึ่งอาจเป็นแผนในระยะถัดไป
จัดอีเวนต์ใหญ่รับสงกรานต์ สะพัด 50 ล.บาท
ด้าน อภิชา วีรชาติยานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อุดรพลาซ่า จำกัด เปิดเผยว่าปี 2566 นี้ ยูดีทาวน์ เตรียมใช้งบลงทุน 30-40 ล้านบาท จัดกิจกรรมใหญ่ในเทศกาลสงกรานต์ ‘UDON SONGKARNBFESTIVAL 2023’ เป็นระยะเวลา 5 วัน 5 คืน ตั้งแต่วันที่ 12-16 เมษายน 2566 หลังจากหยุดการจัดงานมาตั้งแต่ปี 2563 จากปัญหาโควิด
โดยขนาดงานฯ จะมีพื้นที่ 12,000 ตร.ม. จากเดิมอยู่ที่ 8,000 ตร.ม. รองรับผู้เข้ามาร่วมงานไม่ต่ำกว่า 20,000 คนต่อวัน โดยรูปแบบภายในงานแบ่งเป็น 2 โซน คือ 1.โซนครอบครัว มีสตรีทฟู้ด 100 เมนู บูธเครื่องดื่ม และดีเจแนว House Music เวลา 17.00-23.00 น. และ 2.โซน EDM Party จำกัดอายุ 20 ปีขึ้นไปเท่านั้นประกอบด้วย 4 โซนย่อย
โดยไฮไลท์งานฯ จะดึงดีเจระดับอินเตอร์เนชันแนล อาทิ Mike William จากประเทศเนเธอร์แลนด์ Gammer จากสหราชอาณาจักร ตลอดจนหมอลำระดับโกลบอลอย่าง Paradise Bangkok โดยคาดว่าตลอดระยะเวลาจัดงานฯ 5 วัน จะมีนักท่องเที่ยวราว 100,000 คน และมีเงินสะพัดกว่า 50 ล้านบาท
