คิกออฟ!! งานกีฬาฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ 2024 เตรียมจัดขึ้นวันที่ 31 มี.ค. 67 ศึกแห่งความสร้างสรรค์ที่มาพร้อมมิตรภาพของ 2มหาวิทยาลัย

กับแนวคิดน่าสนใจของ AIS ต่อการนำแบรนด์เข้าสนับสนุนการจัดงานฯ เป็นครั้งแรก!! 

สร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่

เปิดตัวไปแล้ว สำหรับการจัดงานกีฬาฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย-ธรรมศาสตร์ 2024 จัดโดยนิสิต-นักศึกษาจากทั้งสองสถาบันเป็นครั้งแรก ที่มาพร้อมกับแนวคิดการจัดงานรูปแบบใหม่ภายใต้คอนเซปต์ ‘Unity to Sustainability’ ที่ถูกนำมาใช้เป็นแกนหลักของการจัดงานฟุตบอลฯ ในปี 2567 นี้

ด้วยหากย้อนกลับไปเมื่อราว 90 ปีก่อน งานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ–ธรรมศาสตร์ ได้จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2477 และถูกจัดมาแล้ว 74 ครั้ง โดยทีมฟุตบอลทั้ง 2 มหาวิทยาลัยร่วมลงสนามฟาดแข้งไปเมื่อครั้งล่าสุด วันที่ 8 ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา และได้ว่างเว้นการจัดงานจากสถานการณ์โควิด-19 ไปร่วม 3 ปีเต็ม

ล่าสุด ทีมจุฬาฯ โดยองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อบจ.) จัดงาน CHULA BAKA BEGINGS นำร่องเปิดตัวเทศกาลงานกีฬาฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ CU-TU Unity Football Match 2024  ที่เตรียมจัดขึ้นในวันที่ 31 มี.ค. 2567 ณ สนามศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ

‘ปุณยภา คุณาวิชชา’ นิสิตชั้นปีที่4 ประธานโครงการฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ ธรรมศาสตร์ 2024 ฝั่งจุฬา ย้ำถึงการจัดงานฯ CHULA BAKA BEGINGS เพื่อให้ผู้เข้าร่วมและนิสิตทุกคนเข้าใจแนวคิดที่เป็นแกนหลักของการจัดงานกีฬาฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ในปีนี้ของทั้ง 2  สถาบัน ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มของแนวคิดใหม่ในการจัดงานฯ ที่พร้อมส่งคืนกลับความยั่งยืนสู่สังคม โดยสะท้อนผ่านทุกกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นตลอดช่วงระยะเวลานับจากนี้ ไปจนถึงการลงสนามแข่งขันจริงในวันที่ 31 มี.ค.นี้

“รายได้จากการขายบัตรเข้าชมการแข่งขันงานฯ จำนวนทั้งหมดในวันดังกล่าว ยังจะถูกนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิองค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในด้านความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมด้วย” ปุณยภา กล่าว

มิติใหม่วงการผู้นำเชียร์

โดยภายในงาน CHULA BAKA BEGINGS ครั้งนี้ ทางฝั่งจุฬาฯ ยังโชว์อีกหนึ่งไฮไลท์ การเปิดตัวประธานเชียร์ (CHEER MASTER) เป็นครั้งแรก คือ ‘มินนี่’ ภูริเดช บุญอุ้ม นิสิตคณะครุศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 ที่มาพร้อมบุคลิกภาพสุดสร้างสรรค์แต่แฝงอานุภาพแห่งความทรงพลังของเส้นเสียงและท่วงท่า ที่เชื่อว่าจะมาเรียกเสียงเชียร์ให้กระหึ่มในสนามแข่งฟุตบอลฯ ในปีนี้ ได้อย่างมีสีสันไม่น้อยเลยทีเดียว

เรียกได้ว่า เป็นอีกแนวคิดใหม่ของงานกีฬาฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ 2024  ที่จะมาพลิกวงการผู้นำเชียร์ในสถาบันอุดมศึกษาให้แตกต่างไปจากเดิม ที่ผ่านมา

โลกเปลี่ยนไปแต่ความสัมพันธ์คงเดิม

ด้าน ‘ปิยวิทย์ หวังชูธรรม’ นิสิตชั้นปีที่4 ประธานโครงการฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ 2024  ฝั่งธรรมศาสตร์ กล่าวเสริมว่า หลังจากงานฟุตบอลระหว่างสองสถาบันว่างเว้นไปช่วงระยะหนึ่ง ในโอกาสนี้มีความพร้อมที่จะสนับสนุนและผลักดันงานฟุตบอลฯ ให้เกิดขึ้นด้วยแนวคิดใหม่ แต่คงไว้ซื่งเอกลักษณ์ที่ทุกคน อยากจะเห็นทั้งขบวนพาเหรดในธีมต่าง ๆ ที่หลายคนยังจดจำที่จะนำมาเสนอให้สอดคล้องกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป

ขณะเดียวกันการแข่งขันฟุตบอลฯ ในปีนี้ ทั้ง 2 สถาบันยังจะใช้ทีมนักฟุตบอลที่เป็นนิสิต นักศึกษา จากทีมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ทีมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาลงแข่งสนามจริงในวันที่ 31 มี.ค.นี้ อีกด้วย 

‘เอไอเอส’ ส่งพลังแห่งความเชื่อมโยง

'พิมพ์นรี น้อยธรรมราช' หัวหน้าแผนกบริหารแบรนด์ ‘AIS’ กล่าวในฐานะหนึ่งในพันธมิตรธุรกิจผู้สนับสนุนการจัดงานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ 2024 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกต่อการนำแบรนด์ ‘AIS PLAY’ แพลตฟอร์มสตรีมมิง คอนเทนต์ จากทั่วโลก ที่สามารถรับชมได้ในช่องทางต่าง ๆ ทั้งแอปพลิเคชัน กล่อง AIS PlAYBOX  และเว็บไซต์ มาร่วมเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดสดในทุกกิจกรรมตลอดช่วงการจัดงานฯ ในวันที่ 31 มี.ค.นี้ ที่เปิดให้ ‘ทุกคน’ เข้ารับชมได้แบบไร้ข้อจำกัดในทุกเครือข่าย ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งขั้นของการสร้างความเท่าเทียม หรือ Digital Inclusion อีกด้วย

พร้อมกล่าวต่อถึงการเข้าร่วมสนับสนุนกิจกรรมฯ ในครั้งนี้ ด้วยหลังจากรับฟังแนวคิดโครงการฯ ที่พบว่ามี ‘ความน่าสนใจ’ ตั้งแต่ตัวคอนเซปต์การจัดงานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬา-ธรรมศาสตร์ 2024 ในรูปแบบที่เป็น ‘พวกเขา’ ต้องการจะสื่อสารและนำเสนอออกมาผ่านพลังแห่ง นิว เจนเนอเรชัน ที่กำลังสร้างประวัติศาสตร์โฉมใหม่ในแบบฉบับของตัวเองผ่านงานฟุตบอลฯ ในปีนี้  

“AIS ในฐานะแบรนด์ดิจิทัล เทคโนโลยีอันดับ 1 ของประเทศไทย พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการนำแบรนด์เข้าไปสร้างเอนเกจเมนต์กับคนรุ่นใหม่ด้วยการแบ่งปันความบันเทิงจากกิจกรรมงานฟุตบอลฯ ในปีนี้ ผ่านการรับชม ‘AIS PLAY’ ในทุกช่องทาง และ ในสนามแข่งขันด้วยความแข็งแรงของสัญญาณเครือข่ายที่นำมาติดตั้งทั่วบริเวณสนามศุภชลาศัย เพื่อตอกย้ำแนวคิดแบรนด์อยู่กับเอไอเอสดีที่สุดในทุกโมเมนต์แห่งการเชื่อมต่อ” พิมพ์นรี กล่าว