เอดีบีและ EA ลงนามข้อตกลงจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้า มูลค่า 3.9 พันล้านบาท

เอดีบีและ EA ลงนามข้อตกลงจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้า มูลค่า 3.9 พันล้านบาท
เอดีบีและ EA ลงนามข้อตกลงจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้า มูลค่า 3.9 พันล้านบาท เพื่อยกระดับการขนส่งอย่างยั่งยืนในประเทศไทย

ธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ เอดีบี ได้ร่วมลงนามในสัญญาเงินกู้มูลค่า 3.9 พันล้านบาท (หรือราว 110 ล้านเหรียญสหรัฐ) กับบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) เพื่อจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้า (e-bus) จำนวนไม่เกิน 1,200 คัน โดยรถเมล์ไฟฟ้าเหล่านี้จะเข้ามาแทนที่รถเมล์เครื่องยนต์สันดาปที่ให้บริการในกรุงเทพฯ และยังช่วยสนับสนุนการใช้ระบบขนส่งสาธารณะพลังงานสะอาดในประเทศไทยอีกด้วย

เอดีบีได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จัดการแต่เพียงผู้เดียวในการจัดการและวางโครงสร้างแพ็กเกจทางการเงินแก่โครงการจัดซื้อ e-bus นี้ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 6 พันล้านบาท โดยเอดีบีได้ระดมเงินทุนภาคเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศในการจัดซื้อ e-bus ประกอบด้วยเงินกู้จากเอดีบี องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Thailand) แห่งละ 1.3 พันล้านบาท และได้รับการสนับสนุนด้านเทคนิคในการศึกษาตลาดรถประจำทางสาธารณะไฟฟ้าจาก ASEAN Catalytic Green Finance Facility ซึ่งบริหารโดยเอดีบีอีกด้วย

รถเมล์ไฟฟ้าดังกล่าวจะช่วยเสริมบริการขนส่งสาธารณะของบริษัท ไทยสมายล์บัส จำกัด และบริษัทในเครือ ครอบคลุม 123 เส้นทาง หรือเกือบครึ่งหนึ่งของเส้นทางเดินรถประจำทางทั้งหมดในกรุงเทพฯ

“โครงการนี้จะส่งผลให้เกิดการลดมลพิษทางอากาศและเสียง ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และยังเป็นหนึ่งในธุรกรรมการจัดหาเงินทุนขนาดใหญ่สำหรับรถเมล์ไฟฟ้าโครงการแรก ๆ ในประเทศไทย และสะท้อนให้เห็นถึงผลต่อแนวทางระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ในภูมิภาคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย” นางซูซานน์ กาบูรี่ ผู้อำนวยการ สำนักปฏิบัติการภาคเอกชนของเอดีบีกล่าว “การร่วมมือกับ EA ซึ่งเป็นพันธมิตรกันมายาวนานในครั้งนี้ เอดีบีได้ระดมเงินทุนด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อเร่งขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่รถเมล์ไฟฟ้า และสร้างประสบการณ์การเดินทางที่ดีขึ้น มีประสิทธิภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”

รถเมล์ไฟฟ้าดังกล่าวผลิตในประเทศไทยและประกอบด้วยวัสดุภายในประเทศอย่างน้อยร้อยละ 40 รวมถึงแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า โครงการนี้จะมีส่วนสนับสนุนนโยบายในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย และการบรรลุจุดมุ่งหมายด้านสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญ ผ่านการส่งเสริมการผสมผสานการคมนาคมขนส่งที่หลากหลายจากการสนับสนุนรถเมล์ไฟฟ้าอีกด้วย

“EA มุ่งเน้นในการขยายสู่ธุรกิจใหม่เพื่อต่อยอดการดำเนินธุรกิจปัจจุบันของกลุ่มบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง ผ่านการสนับสนุนสินเชื่อจากเอดีบี JICA และ EXIM Thailand ในครั้งนี้ EA ยังมุ่งมั่นสู่การเป็นบริษัทชั้นนำด้านนวัตกรรมพลังงานสะอาดของประเทศ และดำเนินธุรกิจที่ครอบคลุมการบริหารจัดการด้านพลังงานไฟฟ้าทุกด้าน รวมทั้งสร้างนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าอย่างครบวงจร โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้งช่วยสร้างความเชื่อมั่นและสร้างโอกาสการลงทุนร่วมกันกับพันธมิตร” นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ EA กล่าว

วิสัยทัศน์ของ EA ด้านพลังงานหมุนเวียน นวัตกรรมการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้านั้น สอดคล้องกับการพัฒนาที่เอดีบีให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ นอกจากนี้ เอดีบีและ EA จะร่วมมือพัฒนาแผนปฏิบัติส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศเพื่อความปลอดภัยของผู้หญิงในภาคการขนส่งสาธารณะ และส่งเสริมให้พนักงานตระหนักถึงความเสมอภาคทางเพศ

EA จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2549 และเป็นหนึ่งในบริษัทพลังงานทดแทนขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 4 โครงการ และพลังงานลม 8 โครงการ EA มีบริษัทในเครือกว่า 64 บริษัทในภาคพลังงาน และได้บุกเบิกขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจด้านการขนส่งอย่างยั่งยืน การขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า และโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ทั้งนี้ เอดีบีได้สนับสนุนบริษัทฯ ในการออกหุ้นกู้เพื่อสิ่งแวดล้อมเมื่อปี 2562 สนับสนุนเงินกู้สีเขียวเมื่อปี 2563 ซึ่งเป็นสินเชื่อที่ผ่านการรับรองว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปี 2564 และจัดหาเงินทุนสำหรับเรือโดยสารไฟฟ้า (electric ferry)ในปี 2565 ด้วยเช่นกัน

เอดีบีมุ่งมั่นในการพัฒนาภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกให้เจริญรุ่งเรือง มีการพัฒนาอย่างทั่วถึง พร้อมรับความเปลี่ยนแปลง และมีความยั่งยืน ในขณะเดียวกัน เอดีบียังคงพยายามในการขจัดปัญหาความยากจนต่อไป เอดีบีก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2509 มีประเทศสมาชิกทั้งหมด 68 ประเทศ โดย 49 ประเทศ มาจากประเทศในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก

TAGS: #เอดีบี #EA #รถเมล์ไฟฟ้า #การขนส่ง