พล.อ.สุรยุทธ์ ประธานองคมนตรี ร่วมปล่อยการติดตั้งทุ่นจอดเรือ ทุ่นไข่ปลา และเก็บขยะทะเล บริเวณอ่าวมาหยา เกาะพีพีเล จ.กระบี่ ตามโครงการรวมใจภักดิ์รักษ์ทะเลไทยใสสะอาด

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ให้การต้อนรับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และคณะ ในการเดินทางมาตรวจเยี่ยมการติดตั้งทุ่นจอดเรือ ทุ่นไข่ปลา และเก็บขยะทะเล บริเวณอ่าวมาหยา เกาะพีพีเล จ.กระบี่

ทั้งนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ พร้อมด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่​, พลเรือโท สุวัจ ดอนสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3/ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาคที่ 3, นายพรชัย จุฑามาศ มูลนิธิอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ (อพ.สธ.), นายอภัย จันทนจุลกะ อดีตรมว.แรงงาน นายสมพันธ์ จารุมิลินท ประธานกรรมการดำเนินงานโครงการรวมใจภักดิ์รักษ์ทะเลไทยใสสะอาด เฉลิมพระเกียรติฯ มูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่​ และคณะ ได้วางพวงมาลัยข้อมือและจุดเทียนสักการะอนุสาวรีย์พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ณ ลานพระอาทิตย์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่

จากนั้น คณะได้นั่งเรือเดินทางไปตรวจเยี่ยมและปล่อยการติดตั้งทุ่นจอดเรือ ทุ่นไข่ปลา และเก็บขยะทะเล พร้อมรับฟังบรรยายสรุปขั้นตอนการปฏิบัติงาน ปลูกต้นไม้ ชมทัศนียภาพและรับฟังบรรยายเกี่ยวกับการฟื้นฟูอ่าวมาหยา​ และฉลามครีบดำ (Shark Watch ProJect) บริเวณอ่าวมาหยา เกาะพีพีเล อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ตามโครงการรวมใจภักดิ์รักษ์ทะเลไทยใสสะอาด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ร่วมกับ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มูลนิธิอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ (อพ.สธ.), กองทัพเรือ (กองทัพเรือภาคที่ 3) หน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และจังหวัดกระบี่ ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สำหรับโครงการ รวมใจภักดิ์รักษ์ทะเลไทยใสสะอาด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาส มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28กรกฎาคม2567 มีวัตถุประสงค์เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทะเลไทย โดยร่วมมือกับหน่วยงานเครือข่ายช่วยกันฟื้นฟูและอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในแนวปะการัง บริเวณเกาะพีพีเล ซึ่งเป็นพื้นที่ซึ่งต้องมีการบริหารจัดการที่เหมาะสม สมดุลระหว่างการท่องเที่ยวกับการอนุรักษ์ เพราะมีผลกับเศรษฐกิจของท้องถิ่นชุมชน และความเสียหายอันจะเกิดกับทรัพยากร อีกทั้งเป็นการสร้างกระแสสังคมเพื่อปลุกจิตสำนึกของประชาชนและเยาวชน ให้เห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์แนวปะการังและท้องทะเลไทย