“อาบัติ” หนังไทยต้องห้ามที่กลับมาสะท้อนศีลธรรมในจีวรอีกครั้งบน Netflix ท่ามกลางกระแสข่าวพระ–สีกาในปี 2025 กับคำถามที่สังคมไทยอาจไม่กล้าตอบมาตลอดสิบปี

ในปี 2015 ภาพยนตร์ไทยเรื่องหนึ่งชื่อว่า “อาบัติ” ได้กลายเป็นหัวข้อร้อนแรงในสังคมทันทีที่เปิดตัว ด้วยเนื้อหาที่กล้าสะท้อนมุมมืดในวัดและความสัมพันธ์ที่ “ล้ำเส้น” ระหว่างพระบวชใหม่กับหญิงสาวในหมู่บ้าน หนังเล่าเรื่องของ “เปา” เด็กหนุ่มที่ถูกบังคับให้บวชเพื่อดัดนิสัย ก่อนจะพบว่าภายในวัดชนบทแห่งนี้เต็มไปด้วยอดีตที่ใครบางคนพยายามปกปิด

“อาบัติ”  ผลงานการกำกับของ 'ฝน–ขนิษฐา ขวัญอยู่' เป็นหนังแนวดราม่ากึ่งสยองขวัญที่ไม่ได้เพียงแต่สำรวจเรื่องผีหรือความเชื่อ แต่ยังตั้งคำถามลึกซึ้งถึงศีลธรรมในจีวรและโครงสร้างของสถาบันสงฆ์ คำถามที่ในเวลานั้นยังถือว่าแรงเกินไปสำหรับพื้นที่สาธารณะ

ในเวลานั้นคณะกรรมการภาพยนตร์แห่งชาติขอให้ตัดฉากสำคัญหลายฉาก และเปลี่ยนชื่อหนังเป็น “อาปัติ” ก่อนจะอนุญาตให้ฉาย แม้หนังจะได้ออกสู่สายตาผู้ชม แต่ก็ไม่ใช่ในแบบที่ผู้สร้างตั้งใจไว้ ความสมบูรณ์ของเรื่องหายไปพร้อมกับฉากที่สะเทือนใจที่สุด

เกือบสิบปีผ่านไป ในปี 2025 หนังเรื่องนี้กลับมาปรากฏบนหน้าจออีกครั้ง คราวนี้ในเวอร์ชั่น Uncut เต็มรูปแบบ ที่ไม่มีการตัดหรือเบี่ยงเบนเนื้อหา พร้อมใช้ชื่อเดิมว่า “เปรต อาบัติ” บน Netflix และสิ่งที่น่าทึ่งคือ การกลับมาครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแบบเงียบ ๆ หากแต่กลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะบน TikTok ที่คลิปโปรโมตจาก Netflix Thailand มียอดไลก์พุ่งกว่า 21,500 ครั้งในเวลาไม่กี่วัน

แต่สิ่งที่ทำให้กระแสของ “อาบัติ” ปี 2025 รุนแรงยิ่งกว่าเดิม คือบริบทของข่าวจริงที่กำลังเป็นที่สนใจในสังคม  กรณี “พระกับสีกา” ที่เกี่ยวพันกับพระชั้นผู้ใหญ่, เงินวัดหลายร้อยล้านบาท, และภาพลับจำนวนมหาศาลที่กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวน สะท้อนให้เห็นว่าประเด็นที่ “อาบัติ” ตั้งคำถามไว้ตั้งแต่วันแรกนั้นยังคงเป็นความจริงที่ไม่มีใครกล้าพูดมาจนถึงวันนี้

ท่ามกลางกระแสศรัทธาที่ถูกท้าทาย และความอึดอัดของคำว่าต้องห้ามในสังคมไทย หนังเรื่องนี้ได้ทำหน้าที่ของมันอีกครั้ง  ไม่ใช่แค่การบอกเล่าเรื่องราวของเปาและฝ้าย แต่คือการเปิดพื้นที่ให้สังคมได้ตั้งคำถามว่า “จีวรคือเครื่องแบบศักดิ์สิทธิ์ หรือเพียงผืนผ้าที่ปิดความเป็นมนุษย์?”

“อาบัติ” อาจเคยหมายถึงความผิดทางพระวินัย แต่สำหรับผู้ชมในปี 2025 มันอาจหมายถึงโอกาสในการเปิดตา เปิดใจ เพื่อกล้าที่จะยอมรับว่าในสังคมไม่เว้นแต่ในวงการที่ใช้ความศรัทธาเป็นแรงขับเคลื่อนก็มีมุมมืดที่ต้องได้รับการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงเสียที ไม่ใช่ปกปิดหรือซุกไว้ใต้พรม