"สะพายกระเป๋าข้างเดียว เสี่ยงกระดูกสันหลังคด" ประโยคนี้หลายคนคงเคยได้ยินมาบ้าง และหลายคนอาจสงสัยว่ามันจริงหรือเปล่า? คำตอบคือ "ไม่จริง"
บทความ “กระเป๋าเป้หนักๆ กับเด็กๆ” ของ Southwest Scoliosis and Spine Institute กล่าวถึงประเด็นโรคกระดูกสันหลังคดและความเชื่อมโยงของน้ำหนักกระเป๋าเป้ว่า โรคกระดูกสันหลังคดไม่ได้เกิดจากการถือสิ่งของ ไม่ว่าจะหนักแค่ไหนก็ตาม แม้ว่าเป้สะพายหลังจะไม่ทำให้เกิดอาการกระดูกสันหลังคด แต่การถือของหนักๆ ก็อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลังในรูปแบบอื่นๆ ได้
ซึ่งปกติจะเกิดขึ้นเมื่อกระเป๋าเป้มีน้ำหนักมากและสายรัดหลวมเกินไป หรือเมื่อเด็กโน้มตัวไปข้างหน้าขณะที่สะพายกระเป๋าที่น้ำหนักมากเกินไปก็ทำให้กระดูกสันหลังไม่ตรงแนวได้ นอกจากนี้ นายแพทย์ กุลพัชร จุลสำลี ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ ได้อธิบายถึงกรณีนี้ไว้ว่า การแบกของหนัก ไม่ใช่ปัจจัยที่ส่งผลต่อกระดูกสันหลังคดแต่อย่างใด
การสะพายกระเป๋าข้างเดียวเป็นประจำ หรือแม้กระทั่งการแบกของหนักบ่อยๆ ไม่สามารถทำให้เกิดการกระดูกสันหลังคดได้อย่างแน่นอน แต่การสะพายกระเป๋าข้างเดียวนั้นส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อ คอ บ่า เช่น ปวดกล้ามเนื้อ การสะพายกระเป๋าข้างเดียว ทำให้กล้ามเนื้อไหล่และหลังด้านที่สะพายกระเป๋าตึงเครียดมากกว่าอีกข้าง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อได้ ปวดคอและบ่า น้ำหนักของกระเป๋าที่กดทับไหล่ จะส่งผลให้คอและบ่าต้องออกแรงมากขึ้นเพื่อพยุงน้ำหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดคอและบ่าได้
วิธีการป้องกัน
- สลับข้างสะพายกระเป๋า พยายามสลับข้างสะพายกระเป๋าเป็นประจำ เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อฝั่งใดฝั่งหนึ่งทำงานหนักเกินไป
- เลือกใช้กระเป๋าสะพายหลัง กระเป๋าสะพายหลังจะช่วยกระจายน้ำหนักอย่างเท่าๆ กัน ส่งผลกระทบต่อกระดูกสันหลังน้อยกว่า
- เลือกกระเป๋าที่มีน้ำหนักเบา ยิ่งกระเป๋ามีน้ำหนักมาก ยิ่งส่งผลกระทบต่อกระดูกสันหลังมากขึ้น
- ปรับสายสะพายให้พอดี สายสะพายควรมีความยาวพอดี ไม่สั้นหรือยาวจนเกินไป
สำหรับการรักษา หากมีอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดคอ บ่า จากการสะพายกระเป๋าข้างเดียว สามารถบรรเทาอาการเบื้องต้นได้ด้วยการประคบเย็นบริเวณที่ปวด ยืดเหยียดกล้ามเนื้อเบาๆ และทานยาแก้ปวด หากอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษา